ขึ้นต้นลานงานที่ถูกเมิน





อาชีพที่ไม่มีใครอยากทำแต่กลับเป็นที่ต้องการของคนกิน



พาไปดูอาชีพที่เสี่ยงตายของลุงวัย 63 ปี ที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ใช้ความสามารถขึ้นต้นลานที่สูงใหญ่ เพื่อเอาลูกลานมาทำขนมหวาน ซึ่งกว่าจะได้ลูกลานมากินต้องรอให้ต้นตายใช้เวลาเกือบ 50 ปี ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียว


            
( 3 มิ.ย 63 ) วันนี้จะพาไปดูอาชีพหนึ่งที่หาดูได้ยากมาก เป็นอาชีพที่เสี่ยงตาย ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบได้  ของลุงเสนาะ ปลัดสิงห์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 / 1 หมู่ ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่ได้มารับจ้างนายประสงค์ สีทองสุข  อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 1 ต.สามเรือน อ.เมือง ขึ้นต้นลานเพื่อเอาลูกไปทำขนมหวาน ในพื้นที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งบริเวณนี้เป็นแหล่งต้นลานขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่กว่าจะได้กินลูกลานก็ต้องรอให้ต้นลานตายก่อนถึงจะมีลูกออกมาบริเวณปลายยอดของต้นใช้เวลาเกือบ 50 ปี จากนั้นต้นลานก็จะตายไปในที่สุด   
 
        
ด้วยความที่ต้นลานมีมากในอำเภอบางแพ ทำให้ทุกปี ต้นลานที่หมดอายุก็จะออกลูก สามารถขึ้นได้ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือน 7 ของทุกปี หากปีไหนมีเดือนแปดสองครั้ง จะมีต้นลานออกลูกดกมากกว่าปกติ  อีกทั้งต้นลานนี้จะมีความแปลกพิเศษไม่เหมือนต้นไม้ชนิดอื่นทั่วไป เนื่องจากเมื่อได้อายุการออกลูกแล้ว ต้นลานจะตายลง คงเหลือไว้แต่ลูกลานที่ห้อยเป็นพวงระย้าให้เห็น ชาวบ้านในพื้นที่จึงเรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่า “ ต้นลูกฆ่าแม่ ”  ซึ่งกว่าจะได้ลูกลานจากบนต้นลงมาต้องใช้ความสามารถสูง เนื่องจากต้องใช้ไม้พะองลักษณะเป็นไม้ไผ่ยาวด้านข้างเป็นตาไม้ไว้เหยียบเดินไต่ขึ้นไป  บางต้นต้องต่อพะองถึง 4 ลำ จึงจะถึงยอดต้นลานมีความสูงประมาณเกือบ 30 เมตร การขึ้นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะที่ก้านใบมีหนามแหลมคมลำบากในการปีนป่าย ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะได้ลูกลานนำมาทำขนมได้

          
นายประสงค์ สีทองสุข อายุ 56 ปี ที่ทำกิจการลูกลานดิบ กล่าวว่า  ต้นลานใช้เวลานานกว่า 40 ปี จึงจะออกลูกหลังจากนั้นต้นก็จะตาย  ต้นลานจะออกดอกช่วงเดือนมีนาคม  และจะใช้ลูกได้ประมาณเดือนมิถุนายน  ส่วนวิธีเสี่ยงทายว่าต้นไหนมีลูกได้พอเหมาะจะใช้หนังสติ๊กยิงขึ้นไปบนยอดให้โดนลูกก็จะร่วงหล่นลงมานำมาแกะเปลือกดู ก็จะรู้ว่าต้นไหนใช้การได้ ส่วนขั้นตอนการขึ้นเอาลูกลานนั้นจะใช้พะองเป็นไม้ไผ่ยาวลักษณะจะมีตาไม้อยู่ด้านข้างลำผูกเชือกต่อขึ้นไป  แล้วแต่ความสูงของแต่ละต้น บางต้นสูงมากต้องใช้พะองต่อกันถึง 4 ลำจึงจะถึงยอด ค่าจ้างคนขึ้นต้นละ 1,000 บาท ส่วนลูกน้องที่ช่วยคนละ 500 บาท  บางวันจะขึ้นได้ประมาณ 3 ต้น หลังได้ลูกลานมาแล้วจะนำไปรูดออกจากพวงแล้วใส่เครื่องทุบ แกะเปลือกนอกออก  นำเอาเมล็ดในสีขาวนวลออกมาล้างแช่น้ำ ก่อนส่งขายกิโลกรัมละ 100 บาท เฉลี่ยต้นลาน 1 ต้นได้ลูกประมาณ 150 - 200 กิโลกรัม นำไปทำลูกลานลอยแก้วและต้มกะทิลูกลานหากินยากเพราะจะมีเพียงบางพื้นที่ 
 
             
นายเสนาะ ปลัดสิงห์ อายุ 63 ปี คนรับจ้างขึ้นต้นลาน กล่าวว่า ยึดอาชีพขึ้นต้นลานมากว่า 10 ปีแล้ว  การขึ้นต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะใบลานมีหนามแหลมคมหลุดลงมาโดนขณะขึ้นก็ถือเป็นอาชีพที่เสี่ยงตาย  เพราะบางครั้งยังมีรังตัวต่ออาศัยอยู่บนต้นด้วย หากใช้ไม้พะองพาดขึ้นไปไม่ระวังจะไปโดนรังต่อต่อยทำร้ายได้  ในพื้นที่ราชบุรีเท่าที่รู้ไม่มีใครยึดอาชีพขึ้นต้นลาน นอกจากตน เพราะไม่มีใครกล้าขึ้น คงมีเพียงชาวกะเหรี่ยงคนหนึ่งที่รับจ้างแต่ขึ้นได้วันละ 1 ต้น ขณะที่ตนขึ้นได้วันละ 3 – 4 ต้นต่อวัน ได้ค่าจ้างขึ้นต้นละ 1,000 บาท  ช่วงนี้จะได้รับค่าจ้างขึ้นประมาณวันละ 3,000 บาท ลูก ๆ ไม่ได้ห้ามแต่ให้ขึ้นใช้ความระมัดระวัง เพราะเคยขึ้นต้นตาลมาตั้งแต่เด็ก ๆ ขึ้นต้นตาลได้ ก็จะขึ้นต้นลานได้ เพราะคล้าย ๆ กัน อำเภอบางแพมีต้นลานมาก  ความสูงของต้นลานเมื่อขึ้นไปอยู่บนยอดจะมองเห็นถึงองค์พระปฐมเจดีย์จังหวัดนครปฐมด้วย เมื่อได้ลูกลานมาแล้วก็จะนำมาเข้าเครื่องปั่นแยกเปลือกและเมล็ดในออก เหลือมาล้างน้ำให้สะอาดก่อนส่งขาย ให้กับกลุ่มอาหารคาวหวานพื้นบ้านตำบลสามเรือนไปทำขนมขาย 


           
นางสาวฉันทาพัฒน์ อยู่ดี อายุ 50 ปี ประธานกลุ่มอาหารคาวหวานพื้นบ้านตำบลสามเรือน เลขที่  121 หมู่ 1 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวว่า ได้ลูกลานมา ก็จะนำไปแช่น้ำไว้ประมาณ 1 คืน และล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นต้มให้เดือดนำลูกลานลวกให้กลิ่นออกไป  จึงนำมาเชื่อมต้มเคี่ยวกับน้ำตาลให้น้ำตาลเกาะลูกลานจะเพิ่มความเหนียวหนึบมากยิ่งขึ้น  นำไปทำลูกลานเชื่อม ลูกลานบัวลอย ลูกลานใส่กะทิ หรือนำไปแกงคั่วหรือแกงส้มลูกลานได้อีก ขายส่งทั่วประเทศ เช่น ภาคใต้  ภาคอีสาน หลายจังหวัดมีออเดอร์สั่งเข้ามาไม่ขาด จัดส่งเป็นลูกลานแช่แข็งห่อหุ้มฟอยด์อย่างดีส่งพัสดุประมาณ 2 วันถึงมือลูกค้า ซึ่งหากเป็นช่วงฤดูกาลลูกค้าจะได้รับประทานลูกลานสด แต่หากนอกฤดูกาลก็จะได้รับประทานลูกลานฟิชน้ำแข็งรสชาติจะแตกต่างจากลูกลานที่สดจะเหนียวหนึบเล็กน้อย ขาย กก.ละ 120 บาท ไม่รวมค่าส่ง ส่วนบัวลอยลูกลานกะทิ ขายถ้วยละ 25 บาท ลูกลานลอยแก้วถ้วยละ 25-30 บาท จะมีการจำหน่ายทั้งราคาปลีกและราคาส่ง 
 
         
นางอบ เนียมรักษา นายก อบต.สามเรือน กล่าวว่า  มีการรวมกลุ่มอาหารคาวหวานพื้นบ้าน ตำบลสามเรือนนานแล้ว โดยกลุ่มแม่บ้านมีฝีมือในการคิดค้นแปรรูปให้กับตำบลสามเรือน เริ่มแรกจะทำกระยาสารท อาหารพื้นบ้าน ข้าวต้มมัด วุ้นมะพร้าว ต่อมานำลูกลานไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทั้งของหวาน ของคาว จำหน่ายแก่ผู้สนใจได้ลองชิมหรือติดต่อผ่านเฟซบุ๊กได้ ถ้าจะมาเที่ยวที่กลุ่มให้เดินทางเข้ามาทางวัดโพธิ์สามเรือน เลี้ยวขวาเลาะชายคลองเรื่อยมาถึงบริเวณหมู่ 1 ให้สอบถามกลุ่มทำอาหารพื้นบ้านก็จะมาถึงที่ และยังมีขนมอีกหลายชนิด รอนักท่องเที่ยวมาเลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกได้ 

          
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามสั่งซื้อได้ที่เบอร์ 088 - 4597564,  095-9056654 หรือ เฟซบุ๊ก ชื่อ คุณหมู อยู่ดี 
                           /////////////////////////////////////
พันธุ์ - จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี








ขึ้นต้นลานงานที่ถูกเมิน ขึ้นต้นลานงานที่ถูกเมิน Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 01:02 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.