"กุ้งบางแพ"พลิกวิกฤต หาทางระบายช่วงโควิด-19
นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย เผยแนวทางแก้ไขปัญหาช่วยพยุงเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ทั้งเตรียมขายผ่านออนไลน์ และขายตามแหล่งเฉพาะกิจชั่วคราว
( 24 ธ.ค. 63 ) นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ จ.สมุทรสาคร ช่วงการระบาดของไวรัสโควิด -19 ส่งผลกระทบทำให้ตลาดอาหารทะเล รวมทั้งกุ้งไม่สามารถระบายไปยังผู้บริโภคได้ ขณะนี้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งหลายรายกำลังได้รับความเดือดร้อน จึงขอให้หน่วยงานภาครัฐ และทางสมาคมฯ ช่วยพยุงเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย เปิดเผยว่า หลายคนกำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งใน 1 ปี จะได้ขายกุ้งได้ราคาดีช่วงเทศกาลปีใหม่และช่วงสงกรานต์ ทุกคนจะเก็บกุ้งไว้ช่วงระหว่างวันที่ 24 - 31 ธันวาคม พอเกิดสถานการณ์โรคโควิด -19 เกษตรกรไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตลาดกลางมีปัญหา จึงอยากจะวิงวอนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากจะจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบถาวรให้กับเกษตรกร เช่น ของราชบุรี มีทั้งสหกรณ์ ทั้งชมรม สมาคม มีวิสาหกิจชุมชน อยากใช้ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ในการรวบรวมผลผลิตมาส่งเสริมให้เกษตรกรได้มาขาย และยังเป็นโอกาสที่ทางตลาดมหาชัยได้ปิดตัว แต่ราชบุรีเป็นต้นสายผลิตส่งเข้าไปยังตลาดมหาชัย ของที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคอยู่แล้ว จึงจะมาวางมาตรการอย่างไร ทั้งคนที่มาซื้อ และคนนำมาขายควรทำอย่างไร ก่อนที่จะเกิดเหตุซ้ำสอง และอยากให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน คนขายปลอดภัย คนบริโภคก็ปลอดภัย เกษตรกรก็ปลอดภัยด้วย คนซื้อก็กำลังเดือดร้อนเพราะไม่รู้จะไปซื้อสินค้าที่ไหน
ช่วงที่ผ่านมาที่ประสบปัญหา ได้ไปเปิดตลาดเฉพาะกิจ เช่น ตลาดนัด และขายตามปั๊มน้ำมัน ทางปั้มยินดีให้ขายแต่จะมีข้อจำกัด เช่น เรื่องนำกุ้งไปแล้วของจะเหลือมั๊ย รวมทั้งเรื่องความสะอาด ซึ่งหากทำเรื่องที่พูดมานี้ให้เกิดความถาวร มีระบบป้องกันที่ดี เชื่อว่าต่อไปจะพัฒนาเป็นตลาดได้ สามารถสร้างอำนาจการต่อรองให้แก่เกษตรกรได้อีกด้วย
อยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วนก่อนที่เกษตรกรจะรับไม่ไหว เพราะระบาดมารอบที่ 2 แล้ว ช่วงเกิดสถานการณ์โควิด ได้มีการตรวจสอบคนงาน ตรวจเช็คการเข้า ออกพื้นที่ ตามมาตรการอย่างเข้มข้นที่จะอยู่อย่างไรให้ปลอดภัย ขณะที่ได้มีการพูดคุยกับประมงจังหวัด เรื่องจะนำกุ้งไปจำหน่ายที่หน้าโรงเรียนดรุณาราชบุรี มีเกษตรกรกลุ่มของชมรมผู้เพาะเลี้ยงกุ้งคุณภาพ จ.ราชบุรี ที่ยื่นความประสงค์จะนำกุ้งไปขายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ขอเชิญชวนประชาชนช่วยกันอุดหนุนสินค้าของเกษตรกรโดยตรงไม่มีการผ่านคนกลางจะมาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นไป
โดยช่วงปีใหม่คาดว่าจะมีกุ้งออกสู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 60 - 70 ตัน เฉพาะเขตเลี้ยงในพื้นที่ราชบุรี ปกติช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีที่ผ่านมาจะมีราคาสูงกว่าช่วงปกติ จากเดิมที่ขาย กก.ละ 350 บาท ไซด์ 8 - 10 ตัว/โล แต่พอช่วงปีใหม่จะขยับราคาเป็น กก.ละ 400-410 บาท แต่ตอนนี้ราคาหาที่แน่นอนไม่ได้ บางวันก็ต้องปล่อยให้กุ้งเสียไปเพราะไม่มีตลาดรองรับ ถ้าไม่จับขึ้นมาตามกำหนดกุ้งก็จะกินกันเอง และจะเสียหายสร้างความขาดทุนให้แก่เกษตรกร ช่วงที่ผ่านมาได้เคยประสบปัญหาได้พูดคุยกับเกษตกร จ.สุพรรณบุรี มีแนวทางแก้ไข เช่น เอากุ้งไปขายตามตลาด และปั้มน้ำมัน ส่วนราชบุรีขายผ่านออนไลน์ จะแบ่งกันทำงาน ใครขายได้มากกว่าจะโอนกุ้งส่งช่วยกัน มี จ.กาญจนบุรีก็ได้ทำเหมือนกัน
สำหรับพื้นที่ อ.บางแพ เป็นแหล่งที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามมากที่สุดในประเทศ ประมาณกว่า 2 หมื่นไร่ รายได้เข้า จ.ราชบุรี ปีหนึ่งหลายพันล้านบาท ราชบุรีมีจุดเด่นหลายอย่าง ทั้งเรื่องของน้ำที่ได้รับจากเขื่อนศรีนครินทร์ สภาพพื้นที่เป็นดินดำ ทำให้รสชาติดี สีกุ้งสวย การเลี้ยงทำให้ปลอดโรค การจัดการปรุงสุกสะอาดปลอดภัยดี เพียงแต่จุดที่เกิดเหตุ ไม่ได้เกิดตรงพื้นที่เลี้ยงกุ้ง ส่วนกุ้งที่นี่ก็ไม่ได้ขายที่ตลาดมานานหลายปีแล้ว เพราะขายเองอยู่ที่หน้าฟาร์ม และมีช่องทางการขายกุ้งผ่านทางออนไลน์ด้วย ช่วงเทศกาลปีใหม่สามารถสั่งสินค้าได้ สั่งวันนี้โอนเงินมา พรุ่งนี้ก็จะดำเนินการจัดแพ็กกิ้งส่งลูกค้าในวันถัดไปก็จะได้รับสินค้า
สำหรับช่วงปีใหม่มีไซส์ 8 - 10 ตัว/กก.หน้าฟาร์ม กก.ละ 420 บาท ไซส์ 10 - 12 ตัว /กก. ประมาณ 390 - 400 บาท ส่วนไซส์รองลงไปราคาก็จะลดหลั่นกันไป ราคานี้ไม่รวมค่าขนส่ง ช่วงนี้ยังมีออเดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ แต่เกษตรกรบางคนไม่มีออเดอร์การสั่งจะลำบากไม่รู้จะไปขายที่ไหน ที่นี่จึงเป็นตัวกลางที่ช่วยประชาสัมพันธ์ พร้อมดูเรื่องคุณภาพของสินค้าของเพื่อนเกษตรกร เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจสินค้าที่ดีมีความปลอดภัยสูงและพยายาม หาทางออกให้กับเพื่อนเกษตรกรในช่วงโควิด 19 ให้รอดพ้นไปได้
////////////////////////////////////////////////
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี