ถึงคิวคนเลี้ยงกุ้งแล้ว




เจอพิษโควิด-19ส่งออกไม่ได้
ตกค้างกว่า 500 ตัน วอนกระทรวงพาณิชย์ช่วย    


นายสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย วอนกระทรวงพาณิชย์ช่วย เร่งประสานหน่วยงานระบายกุ้งก้ามกรามของเกษตรกรที่ตกค้างไม่ต่ำกว่า 500 ตัน ด่วนหลังประสบภาวะวิกฤตจากพิษโควิด - 19 มีคำสั่งปิดร้านอาหารชั่วคราว งดการส่งออก  ไม่สามารถระบายกุ้งออกสู่ท้องตลาดได้ 

               
( 12 เม.ย. 63 )  นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในชื่อ “ ประกอบฟาร์ม ” ตั้งอยู่เลขที่  81/1 หมู่ 6 ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี มีบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่จำนวน 40 บ่อ เนื้อที่ 300 ไร่ มีการเลี้ยงกุ้งตัวผู้ล้วนหลายรุ่นหมุนเวียนสลับกันไป ลักษณะกุ้งจะตัวใหญ่เนื้อแน่น ช่วงที่ผ่านมาเคยส่งออกจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยพื้นที่ราชบุรีถือเป็นแหล่งเลี้ยงกุ้งใหญ่ที่สุดในประเทศ สร้างรายได้มหาศาลให้แก่เกษตรกร  แต่หลังจากเกิดสถานการณ์เชื้อโควิด - 19 แพร่ระบาดหนักไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยถูกสั่งปิดการค้าการจำหน่ายสินค้าระหว่างประเทศสิ้นเชิง รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหารทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่  โรงแรมต่าง ๆ ทำให้ขณะนี้กุ้งที่เกษตรกรเลี้ยงไว้กำลังอยู่ในช่วงโตเต็มวัย ไม่สามารถส่งออกไปจำหน่ายได้  หากเกินกำหนดการเลี้ยงและยังคงปล่อยให้อยู่ในบ่อก็จะกินกันเอง สร้างความเสียหายขาดทุนแก่เกษตรกรทั่วประเทศ
 
               
นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย  เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.บางแพ  ประสบปัญหามากเรื่องการตลาดนำกุ้งออกไปขาย เนื่องจาก อ.บางแพมีพื้นที่เลี้ยงกุ้งเกือบ 2 หมื่นไร่ ผลผลิตที่ตกค้างอยู่ตอนนี้ไม่น่าต่ำกว่า 500 ตัน เกษตรกรกำลังประสบปัญหาลำบากมาก กรณีกุ้งถึงอายุที่ต้องจับส่งขายตลาด แต่กลับนำไปขายไม่ได้ นำไปขายตลาดบางแห่งรับซื้อ บางแห่งไม่รับซื้อ  หลายคนพยายามขายทางตลาดออนไลน์ แต่ก็มีปัญหาไม่ค่อยมีความรู้  คิดว่าหลังจากนี้ไปอาจจะมีเกษตรกรเหลืออยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 90 เปอร์เซ็นต์อาจสูญหายจากไป เนื่องจากมีเรื่องเงินทุนต่าง ๆ  เช่น การใช้เงินจ่ายค่ากระแสไฟฟ้า ค่าอุปกรณ์ ค่าแรงงานลูกน้อง ค่าอาหาร และอื่น ๆ  ทั้งที่มีกุ้งเลี้ยงอยู่ในบ่อแต่ขายไม่ได้ พอกุ้งก้ามกรามได้อายุครบ 4 เดือนแล้วไม่จับขายออก  ก็จะเกิดปัญหากุ้งกินกันเองภายในบ่อ สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาขาดทุน 
 
              
จึงอยากวิงวอนผู้ที่มีอำนาจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องประสานช่วยเหลือ อย่างบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด จะมีประจำอยู่ทุกจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดคอยดูแล  แต่ละจังหวัดจะมีของดีประจำอยู่ซึ่งก็เหมือนกับกุ้งราชบุรี แต่ละที่ก็ไม่รู้ว่าจะไปพบเจอกันอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคของดีกัน   ซึ่งหากนำบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด มารวมกันทุกจังหวัดและแลกเปลี่ยนสินค้าของดีซึ่งกันและกัน ก็จะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรทั่วประเทศ

                
ซึ่งหากทางกระทรวงพาณิชย์รับหน้าที่เป็นกลไกในการช่วยเหลือครั้งนี้สามารถประสานงานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าเกษตรกรก็จะสามารถระบายสินค้าได้อย่างแน่นอน  อย่างพื้นที่ภาคกลางตอนนี้มีกุ้งตกค้างไม่ต่ำกว่า 3,000  ตัน  อีกทั้งค่ากระแสไฟฟ้าภาครัฐก็ไม่ได้ช่วยเหลือ เพราะว่ามีการขึ้นต้นด้วยเลข 3 เป็นเกษตรกรที่เป็นระดับกลางไม่มีการช่วยเหลืออะไรเลย 

              
ทั้งนี้หากสำนักงานพาณิชย์ช่วยประสานแต่ละจังหวัดของบริษัทประชารัฐแล้วให้ทางบริษัทประชารัฐเป็นผู้นำ พร้อมให้ส่วนราชการเป็นหน่วยงานเสริม คิดว่าจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ทั้งประเทศ

               
สำหรับราคากุ้งตอนนี้มีเกษตรกรหลายรายนำไปขายที่บริเวณแพมหาชัย จ.สมุทรสาครกันมาก  กลายเป็นต้นทางที่จะต้องลดราคาขายลง มีเกษตรกรบางคนบอกว่าจะต้องเดินหน้าต่อไป คำนวนต้นทุนแล้วอย่างของที่ฟาร์มตนเองนั้น ไซส์ 11-13 ตัว/กก. ขายอยู่ราคา 330 บาท  แต่ลองส่งทางเดลิเวอร์รี่แล้วจะโดนค่าขนส่งราคา 100 บาท  ทำให้ราคาปกติขณะนี้ต่อกิโลกรัมลดลงไปประมาณ 150 บาท ซึ่งไม่มีใครอยู่ได้ แต่จะทำอย่างไรให้มีการขายคืนทุนกลับเข้ามาบ้าง และสามารถเลี้ยงกุ้งต่อไปอีกได้ 

               
อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางประกอบฟาร์ม  ได้ให้ลูกจ้างไปจับกุ้งจากบ่อมาทำการคัดไซส์ประมาณกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อเตรียมนำไปส่งที่สยามแม็คโคร และส่งลูกค้าที่สั่งผ่านระบบออนไลน์  โดยกุ้งขนาดไซส์ 11-13 ตัว/กก. ใส่กล่องๆ ละ 2 กิโลกรัม ราคากก.ละ 330 x 2 มีค่าขนส่งรวมค่ากล่อง 200 บาท ปกติ 860 บาท ลดเหลือเพียง 790 บาท หรือ ขนาดส่ง 5 กิโลกรัม โลละ 330 x 5 โล ค่าขนส่ง 300 บาท  รวม 1,950  ลดเหลือเพียง 1,790 บาท  ขนาด 14 - 15 ตัว/กก.ใส่กล่อง ๆ ละ 2 กิโลกรัม โลละ 280 x 2  โล  ค่าขนส่ง 200 บาท  รวม  760 บาท  ลดเหลือ 690 บาท   หรือสั่ง 5 กิโลกรัม โลละ 280 x 5  ค่าขนส่งรวมกล่อง 300 บาท  รวม 1,700 บาท ลดเหลือ 1,490 บาท ทำให้ช่วงนี้ต้องลดราคากุ้งลงมากจำนวนมาก เป็นเหตุผลที่เกษตรกรเลี้งกุ้งอยู่ไม่ได้จึงวอนให้ภาครัฐช่วยกันประสานขายในประเทศ  

              
สำหรับผู้ที่สนใจกุ้งสามารถติดต่อได้ที่ นางศิริวรรณ  ทรัพย์ยอดแก้ว โทร  081- 7024769  หรือ ID line  032-295178  
                                               ///////////////////////////////////////
พันธุ์ -  จรรยา  แก้วนุ้ย  จ.ราชบุรี






ถึงคิวคนเลี้ยงกุ้งแล้ว ถึงคิวคนเลี้ยงกุ้งแล้ว Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 01:11 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.