แห่ขอหวยตะเคียนแม่ลูก



พระชาวบ้านอุ้มมาจากในเมืองร่วม10ปี เฮี้ยนชวนขนหัวลุกเข้าฝันให้เอารถออกเพราะจอดทับคอ ก่อนหลวงพ่อเอาไปอยู่วัดให้หวยจนสร้างโบสถ์เสร็จ 



ชาวบ้านแห่ขอหวยต้นตะเคียนสองแม่ลูกยาว  5  เมตร ให้เลขเด็ด 3 ตัวตรง ที่วัดหนองน้ำขุ่น ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังได้เชิญมาจากโรงภาพยนตร์เก่าในเมืองราชบุรี หลวงเชิญมาอยู่วัด ให้โชคจนมีคนมาร่วมสร้างโบสถ์เสร็จ

               
( 30 ต.ค. 62 )  ที่วัดหนองน้ำขุ่น  หมู่ที่ 9 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา  ได้มีประชาชนจำนวนหนึ่งขึ้นไปกราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ดกับเสาไม้คะเคียนทอง มีความยาวประมาณ 10 ศอก หรือ 5 เมตร มีผ้าหลากสีพันรอบอยู่เกือบทั้งต้น ด้านหลังก็จะมีชุดไทยสีสันสวยงามแขวนไว้หลายชุด จากที่ชาวบ้านได้มาบนบานศาลกล่าว ขอพร ขอโชคลาภจนประสบความสำเร็จแล้วนำสิ่งของมงคล ทั้งชุดไทย เครื่องสำอาง และน้ำแดงมาถวายตามคำที่ได้รับปากไว้  ทำให้เป็นที่เลื่องลือกล่าวขานกันไปปากต่อปาก ทำให้วันนี้มีชาวบ้านทั้งในพื้นที่ ต.ห้วยไผ่ และพื้นที่ใกล้เคียงได้เดินทางมากันขอเลขเด็ดกันอย่างคึกคัก 


                
นางวรวรรธน์  อ่วมเอี่ยม อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 9 ต.ห้วยไผ่ ให้ข้อมูลว่า เมื่อปี พ.ศ. 2553 ได้ปรับปรุงโรงภาพยนตร์คีรีทองอยู่ในเมืองราชบุรี เป็นโรงหนังเก่า พบว่า เสาต้นตะเคียนทองอยู่ที่บนพื้นข้างบันไดทางขึ้นโรงหนัง ปรากฏว่ามีรถยนต์คันหนึ่งไปจอดทับเสาตะเคียนทอง   พอตกกลางคืนยามที่เฝ้าโรงหนังเก่าฝันว่ามีแม่นางตะเคียนมาบอกให้มาช่วยเอารถยนต์เก๋งออกเพราะไปจอดทับคออยู่   รุ่งขึ้นได้พาเจ้าอาวาสวัดหนองน้ำขุ่นมาดู พบว่าเป็นเสาไม้ตะเคียนทองจึงได้เชิญให้มาอยู่ที่วัดนี้ โดยบอกแม่ตะเคียนว่าให้ช่วยเหลือวัดนำพาประชาชนมาร่วมกันสร้างโบสถ์ที่กำลังก่อสร้างด้วย พอมาถึงทุกวันนี้โบสถ์หลังนี้ก็สร้างเสร็จแล้ว  อีกทั้งยังมีประชาชนมาขอเลขกันอยู่เนือง ๆ อย่างงวดนี้ตัวเองขอได้เลข 22 

             
พระครูสังฆกิจจานุรักษ์  เจ้าอาวาสวัดหนองน้ำขุ่น กล่าวว่า หลังจากที่ได้เสาตะเคียนทองมาตั้งไว้ที่ศาลก็จะมีชาวบ้านมาขอโชคลาภกันไม่ขาดสาย  พอหลังวันหวยออกก็จะมีชาวบ้านนำของมาถวาย มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง สมัยก่อนที่ตั้งศาลจะมีแค่เต็นท์คลุมไว้  ต่อมาก็ค่อยๆพัฒนามาเรื่อยๆ โดยแม่ตะเคียนเป็นส่วนหนึ่งที่ได้นำพาชาวบ้านมาร่วมทำบุญสร้างอุโบสถหลังนี้ที่สวยงามใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว คงเหลือแต่ช่วงพื้นอีกเล็กน้อยเท่านั้น  หลังจากที่นำเสาตะเคียนมาตั้งที่วัดแล้วเคยมีชาวบ้านพบเห็นเด็กผู้ชายมาวิ่งเล่นอยู่บริเวณศาล แต่ไม่รู้ลูกใคร จะเห็นว่ามีชาวบ้านนำของเด็กเล่นมาวางถวายด้วย  

            
นายเดชา คงคาใส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 กล่าวว่า ช่วงที่จะนำเสาตะเคียนมานั้น มีเพื่อนบ้านมาขอความช่วยเหลือให้ไปช่วยกันอุ้มเสาแม่ตะเคียนที่ในเมืองราชบุรี จึงนิมนต์หลวงพ่อไปด้วย โดยตัวเองได้ตั้งจิตอธิษฐานบอกว่าขอให้แม่ตะเคียนมาช่วยพัฒนาวัดหนองน้ำขุ่น ถ้าเกิดอยากมาอยู่ที่วัดจริงก็ขอให้อุ้มเสาแม่ตะเคียนขึ้น โดยช่วยกันอุ้มเสาทั้งหมดรวม 4 คน ขณะที่มีชาวบ้านมามุงดูและบอกว่าไม่มีทางที่จะอุ้มเสาขนาดใหญ่และยาวต้นนี้ขึ้นได้ แต่ปรากฏว่าสามารถอุ้มนำพาขึ้นบนรถได้สำเร็จ โดยตัวเองนั่งท้ายรถจับเสาไว้ ขณะเดินทางพามาวัดก็มีลักษณะคล้ายรูปผู้หญิงสองแม่ลูกปรากฎอยู่บนเสาไม้ พอมาถึงวัดก็ทราบจากชาวบ้านบางคนฝันว่าเสาแม่ตะเคียนเป็นสองแม่ลูกที่อยู่ที่เสาต้นนี้   อีกทั้งมีคนเห็นว่ามีเด็กมาวิ่งเล่นแถวใกล้เสาแม่ตะเคียนและองค์แม่ตะเคียนด้วย  อีกทั้งพี่ชายของตัวเองได้มาช่วยทำความสะอาดวัดและมาขอโชคลาภถูกเลข 3 ตัวบน เป็นเลข   537  เป็นคนแรก ทำให้มีเสียงเล่าลือมีชาวบ้านเดินทางมาขอโชคลาภกัน 
 
            
นายถนอม คงคาใส  ที่เคยได้โชค   กล่าวว่า  สมัยที่นำเสาแม่ตะเคียนมายังไม่มีศาลที่สวยงามแบบนี้ มีเพียงยางรถยนต์ที่นำมาวางรองเสาไว้  ทางหลวงพ่อได้โทรมาบอก จึงขับรถขึ้นมาที่วัดประมาณช่วงกลางดึก และมากราบไหว้ขอพร  ซึ่งตอนได้เปิดไฟหน้ารถไว้และเห็นเป็นเลขขึ้นมาคล้ายกับเอาสีสะท้อนแสงมาเขียนเป็นเลข 537  จึงหันไปถามแฟนว่าเห็นอะไรมั๊ย แฟนบอกว่าเห็นผีหรือเปล่า จากนั้นได้ไปเสี่ยงโชคถูกสามตัว  
 
            
สำหรับบรรยากาศยิ่งใกล้วันหวยออกก็จะมีชาวบ้านหลั่งไหลมาขอเลขเด็ดกันทั้งกลางวัน กลางคืน ได้เลขมีทั้ง 2 ตัว และ 3 ตัว บางคนก็นำแป้งไปโรยบริเวณลำต้น พร้อมใช้มือขัดถูเพื่อพยายามเพ่งมองที่เปลือกไม้หวังให้เจ้าแม่ตะเคียนทองช่วยดลบันดาลให้เลขโผล่ขึ้นมา บางคนก็ใช้ให้เด็กที่ไร้เดียงสาช่วยดูให้ บางคนก็เขย่าเซียมซีได้เลข 78  22   24 28 สุดแล้วแต่โชคของแต่ละคนที่หวังลุ้นในงวดวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ 
                                      
 /////////////////////////////////////////

พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี










แห่ขอหวยตะเคียนแม่ลูก แห่ขอหวยตะเคียนแม่ลูก Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 06:23 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.