งานวิ่งยิ่งใหญ่ระดับประเทศ "สสส.จอมบึงมาราธอน" กลับมาจัดอีกครั้งในปี 65 หลังเจอพิษโควิดปีที่แล้วต้องเว้นวรรคไป 1 ปี นักวิ่งขาประจำเตรียมพร้อมคืนสนามคึกคัก

งานวิ่งยิ่งใหญ่ระดับประเทศ  "สสส.จอมบึงมาราธอน" กลับมาจัดอีกครั้งในปี 65 หลังเจอพิษโควิดปีที่แล้วต้องเว้นวรรคไป 1 ปี นักวิ่งขาประจำเตรียมพร้อมคืนสนามคึกคัก 

วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวางแผนและขับเคลื่อนโครงการจอมบึงมาราธอน (ครั้งที่ 36) พ.ศ. 2565 และภาคีเครือข่าย เพื่อหารือพร้อมรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ในการจัดงานสสส.จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 63 ณ ห้องประชุมทรัพย์คิรี ชั้น 3 อาคารอำนวยการ โดยมีคณะกรรมการวางแผนและขับเคลื่อนโครงการจอมบึงมาราธอน  และหน่วยงานภาคีเครือข่ายร่วมประชุมพร้อมให้ข้อเสนอแนะประเด็นต่างๆในการมีส่วนร่วมการจัดงาน "สสส.จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 36 Challenge of Legend" 


สืบเนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้มีการเลื่อนการจัดงานในปี 2564 ออกไปและกำหนดการจัดงานในปี 2565 อีกครั้ง หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยคณะกรรมการจึงมีมติเห็นชอบให้มีการจัดงานและปรับเปลี่ยนการจัดงานเป็นช่วงระหว่างวันที่ 14 – 16 มกราคม 2565 และแบ่งประเภทการแข่งขันแยกเป็น 3 วันเพื่อลดความแออัดของนักวิ่งคือ 


ประเภทมินิมาราธอนจัดวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ปล่อยตัว เวลา19.00 น. 

ประเภทฮาล์ฟมาราธอนจัดวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2565 ปล่อยตัวเวลา 05.00 น. 

ประเภทมาราธอนจัดวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ปล่อยตัว เวลา 00.00 น.  


โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จะต้องจัดทำแผนมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดราชบุรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

//////////////////////////////////////////////////////////

งานปชส.มรมจ.





งานวิ่งยิ่งใหญ่ระดับประเทศ "สสส.จอมบึงมาราธอน" กลับมาจัดอีกครั้งในปี 65 หลังเจอพิษโควิดปีที่แล้วต้องเว้นวรรคไป 1 ปี นักวิ่งขาประจำเตรียมพร้อมคืนสนามคึกคัก งานวิ่งยิ่งใหญ่ระดับประเทศ  "สสส.จอมบึงมาราธอน" กลับมาจัดอีกครั้งในปี 65 หลังเจอพิษโควิดปีที่แล้วต้องเว้นวรรคไป 1 ปี นักวิ่งขาประจำเตรียมพร้อมคืนสนามคึกคัก Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 19:37 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.