กระแสพันธุ์ไม้ด่างยังคงมาแรง ซื้อขายกันหลักแสนหลักล้าน ตามความชื่นชอบของแต่ละคน ล่าสุดหนุ่มเมืองฮิระยอง ขนร้านกาแฟมาแลกบอนหูช้างด่างขาวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสวัสดิภาพ

กระแสพันธุ์ไม้ด่างยังคงมาแรง ซื้อขายกันหลักแสนหลักล้าน ตามความชื่นชอบของแต่ละคน  ล่าสุดหนุ่มเมืองฮิระยอง ขนร้านกาแฟมาแลกบอนหูช้างด่างขาวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสวัสดิภาพ           

เวลา 10.00 น. ( 27 พ.ย. 64 ) ไปกันที่ฟาร์มกล้วยด่างอวตาร อยู่ที่ ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ของ นายธนกร เพ็งนาเรนทร์ อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของฟาร์ม ซึ่งก่อนหน้านี้นายธนกร เคยเป็นข่าวโด่งดังเรื่องการขายกล้วยด่างแดงอินโด ชื่อทองคูณ ซึ่งแยกหน่อมาจากต้นแม่คือทองคันนาในราคาหน่อละ 3 ล้านมาแล้ว หลังจากที่นำทองเมียไปลงทุนหาซื้อกล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโดมาปลูก กระทั่งเจริญเติบโตมีลูกค้าสนใจเข้ามาซื้อกันอย่างคึกคักมีราคาตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท  นอกจากมีกล้วยด่างแล้วที่นี่ยังมีบอนหูช้างด่างขาว และบอนหูช้างด่างเหลือง เอาะดิบ และตระกูลบอนอีกหลายชนิดก็ยังเป็นที่สนใจของลูกค้ามีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาทด้วย  


ล่าสุดวันนี้มี  นายเดชา รัตนพงศ์พัฒนา อายุ 35 ปี เจ้าของคลินิกเสริมความงาม จากจังหวัดระยอง เกิดความสนใจในไม้บอนด่างหูช้างด่างขาว จึงได้ติดต่อขอนำร้านกาแฟมือสองที่ครอบครัวเพิ่งหมดสัญญาเช่าเอามาแลกกับบอนหูช้างด่างขาว โดยได้ขนย้ายจากจังหวัดระยองมาถึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี คิดค่าขนย้ายพร้อมติดตั้งในราคา 50,000 บาท ซึ่งทางฝ่ายร้านกาแฟเป็นคนออก  อุปกรณ์ประกอบไปด้วยร้านกาแฟ 2 ห้อง แอร์ 2 ตัว ห้องน้ำ 2 ห้อง โดยทางเจ้าของบอนหูช้างด่างขาว ได้ปรับที่ดินสร้างลานเทปูนไว้เป็นฐานสำหรับการประกอบเป็นร้านได้อย่างสะดวก ขนย้ายด้วยรถบรรทุก 6 ล้อ 3 คัน พร้อมคนงานติดตั้งประกอบให้เรียบร้อย 


นายธนกร เพ็งนาเรนทร์  อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของฟาร์มก๊อปอวตาร กล้วยด่างและบอนด่าง กล่าวว่า  บอนหูช้างด่างขาวตั้งราคาไว้ประมาณ 3 แสน 5 หมื่นบาท ตนประกาศรับแลกบ้าน กับรถยนต์ไว้ เป็นโปรเจกต์ที่ยังขาดบ้านน็อกดาวน์อยู่ จะเอามาให้คนงานอยู่ ส่วนรถก็อยากเอามาใช้เพราะมีต้นไม้อยู่มาก  พอดีน้องคนนี้ทักมาว่ามีร้านกาแฟพอจะแลกกันได้มั๊ย จึงพูดคุยรายละเอียดกัน จนได้ตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย 


ด้าน  นายเดชา รัตนพงศ์พัฒนา เจ้าของคลินิกเสริมความงาม กล่าวว่า ร้านกาแฟน็อกดาวน์มือสองก็ราคาอยู่ประมาณ 3 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งแม่ของตนเองเป็นคนชอบต้นไม้ และได้ติดตามเพจพี่เขามานานแล้ว อยากได้สักต้นเอาไปเป็นแม่พันธุ์ อีกทั้งร้านกาแฟก็หมดสัญญาเช่าแล้ว และไม่ได้ทำธุรกิจต่อ  คิดว่าจะหันมาทำธุรกิจไม้ด่างดูบ้าง โดยเห็นพี่เขาโพสต์การแลกรถ แลกบ้าน ก็เลยติดต่อกัน  ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นผู้ออกทั้งหมด โดยที่บ้านเลี้ยงบอนหูช้างด่างเหลืองอยู่ก่อนแล้ว  อนาคตตั้งใจว่าเมื่อเลี้ยงโตแล้วจะตั้งชื่อว่าบอนหูช้างด่าง “ พลาย อวตาร ” ซึ่งพลาย คือช้าง ได้จากฟาร์มอวตาร จึงเรียน “ พลายอวตาร ”


สำหรับการแลกครั้งนี้  ตามข้อตกลงจะแลกกันที่บอนหูช้างด่างขาวจำนวน 1 ต้น แต่ทางเจ้าของฟาร์มอวตารใจดีเห็นมาไกล และมีค่าขนส่งค่อนข้างสูง จึงคุยกันภรรยา ให้แถมต้นบอนโอกินาว่า อายุประมาณ 2 เดือนไปให้อีก 1 ต้น เป็นบอนชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมของประเทศญี่ปุ่นและได้ตั้งชื่อนี้ตามสถานที่มา เลยแถมต้นนี้ให้ไปอีก มีฟอร์มสวยแบบนี้ราคาอยู่ประมาณ 5 - 6 หมื่นบาท   


สำหรับต้นบอนหูช่างด่างขาวต้นแม่ ทางฟาร์ม อวตาร ได้ไปซื้อมาดูแลประมาณ 1 ปีเศษ ในราคา 2 ล้าน 7 แสนบาท  และได้ออกหน่อมาแล้วจำนวน 18 หน่อ ได้ทยอยขายไปแล้วราคาอยู่ประมาณหน่อละหลักแสนบาท - ถึงสามแสนบาท รวมทั้งต้นที่แลกกับร้านกาแฟนี้ด้วย                                

///////////////////////////////////////////////////////

พันธุ์ - จรรยา   แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี




กระแสพันธุ์ไม้ด่างยังคงมาแรง ซื้อขายกันหลักแสนหลักล้าน ตามความชื่นชอบของแต่ละคน ล่าสุดหนุ่มเมืองฮิระยอง ขนร้านกาแฟมาแลกบอนหูช้างด่างขาวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสวัสดิภาพ กระแสพันธุ์ไม้ด่างยังคงมาแรง ซื้อขายกันหลักแสนหลักล้าน ตามความชื่นชอบของแต่ละคน  ล่าสุดหนุ่มเมืองฮิระยอง ขนร้านกาแฟมาแลกบอนหูช้างด่างขาวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสวัสดิภาพ Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 01:17 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.