"สาธิตราชภัฏจอมบึง" คิกออฟ 1 พ.ย.เรียนออนไซต์ ผู้ปกครองเอาด้วย วางมาตรการเข้มข้นทุกขั้นตอน พร้อมเป็นตัวอย่างรร.อื่น
( 29 ต.ค. 64) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เปิดเผยถึง แนวทางการวางมาตรการเตรียมความพร้อม เปิดการเรียนการสอนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยได้ประชุมร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิจารณ์ สงกรานต์ ผู้อำนวยการฯ คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน รวมทั้งประชุมกับผู้ปกครองไปแล้ว มองว่าหากเปิดเรียนวันที่ 1 พ.ย.แล้วยังจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์อยู่ จะมีผลกระทบต่อนักเรียน เพราะว่าการเรียนออนไลน์ทำได้ในบางวิชาเท่านั้น บางวิชาที่ต้องอาศัยการปฏิบัติ การทดลอง การทำจริง การทำเป็นทีมกับเพื่อน ๆ ถึงแม้ว่าออนไลน์ทำได้ แต่ว่าเด็กไม่ได้เจอครู ไม่เจอเพื่อน สิ่งที่หายไปคือเรื่องพัฒนาการช่วงวัยที่ต้องมี ซึ่งจะต้องมีพัฒนาโดยเรียนรู้จากเพื่อน จากครู จากการทำกิจกรรม นอกเหนือจากการเรียนวิชาการ ทางโรงเรียนได้ประชุมกับผู้ปกครองแล้ว ส่วนใหญ่เกิน 90 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยที่จะเปิดให้นักเรียนมาเรียนที่โรงเรียน
ส่วนลักษณะการเปิดเรียน จะผสมผสานระหว่างเรียนแบบออนไซต์ จะดูเรื่องความเหมาะสมรายวิชาระดับชั้นเรียน แต่น้ำหนักจะมาเรียนที่โรงเรียนมากกว่า ยกเว้นเด็กบางคนอาจจะมีปัญหาไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ เพราะมีความเสี่ยงสูง ซึ่งจะทำสองระบบคือ เด็กที่มาเรียนที่โรงเรียนต้องตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย ส่วนเด็กเสี่ยงสูงให้เรียนที่บ้าน และยังได้ขออนุญาตจากจังหวัดในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ วันที่ 1 พ.ย. มีการประเมินความพร้อมตามมาตรฐานกรมอนามัยได้ผ่านแล้ว พร้อมฉีดวัคซีนให้บุคลากรไปแล้วประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนักเรียนฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 ไปแล้ว 97 เปอร์เซ็นต์ อีก 3 เปอร์เซ็นต์มีผู้ปกครองยังไม่มั่นใจถึงผลกระทบการฉีดวัคซีน โดยเด็กผู้ชายฉีดเข็มเดียว ส่วนผู้หญิงอีก 3 สัปดาห์ก็จะกำหนดฉีดเข็ม 2 เป็นภูมิคุ้มกันตนเอง แต่โอกาสที่จะรับเชื้อมีอยู่
วันเสาร์ที่ 30 ต.ค.นี้ จะระดมเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัย ช่วยกันทำความสะอาดทุกจุดให้มีความปลอดภัย กำหนดทำความสะอาดทุกสัปดาห์ วันเปิดเทอมจะมีการตรวจใช้ชุด ATK ให้นักเรียนทุกคนตรวจก่อนเข้าเรียน ให้มั่นใจว่าไม่มีใครนำโรคมาแพร่ให้เพื่อน เป็นมาตรฐานของทางจังหวัดด้วย นอกจากนี้ยังตรวจคนขับรถมาส่งนักเรียนภายในโรงเรียนทุกคน คัดกรองใช้โปรแกรมไทยเซฟไทย โดยโปรแกรมนี้เด็กทุกคนต้องลงไว้ในสมาร์ทโฟน จะประเมินตัวเองว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่จะเอาเชื้อโรคไปแพร่สู่คนอื่น ประเมินไปแล้วในส่วนของบุคลากร วันแรกของโรงเรียนสาธิตฯ จะให้เด็กตรวจ ATK และประเมินด้วยแอพลิเคชั่นไทยเซฟไทย ถ้าเจอคนไหนมีความเสี่ยงก็จะทำขั้นตอนที่ 2 คือ แยกตัวออกมาไว้ที่ศูนย์พักคอยของมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ในโรงเรียน ขอเวลาดู 2 สัปดาห์ นับจากวันที่ 1-14 พ.ย. ช่วงเปิดให้นักเรียนมาเรียนแล้ว มีอะไรบ้างที่ยังต้องดำเนินการ ทางจังหวัดมองว่าทางโรงเรียนสาธิตฯ มีความพร้อมที่จะเป็นตัวอย่างแก่โรงเรียนอื่น ๆ ที่จะทำแบบออนไซต์ โดยจะทำมาตรการต่าง ๆ ให้ครบ เพื่อให้โรงเรียนอื่นมาดูแนวทางการเรียนได้
//////////////////////////////////////////////
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี