ฉลองแต่งในเรือนจำ



ฉลองแต่งในเรือนจำ  เสร็จพิธีชวนกันมาฮันนีมูนที่นี่

น่ารักมากคู่บ่าวสาวชาวราชบุรี สวมชุดบ่าวสาวแต่งงานวันแรกเลือกมาเที่ยวถ่ายภาพบรรยากาศ Cook@Coff @ ราชบุรี ภายในเรือนจำกลางราชบุรี  ชิมอาหารฝีมือผู้ต้องขังรสชาติอร่อย เลือกซื้อผักปลอดสารพิษไปทำกับข้าวให้สามีกิน


( 8 มี.ค. 64 ) วันชื่นมื่นของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งอยู่ที่ ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่จัดงานแต่งงานแห่ขันหมากผูกข้อมือตามแบบประเพณีโบราณ ทำบุญตักบาตร และรดน้ำสังข์กันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 จึงงดจัดพิธีฉลองมงคลสมรสการกินเลี้ยงตอนกลางวัน เพื่อหลีกเลี่ยงผู้มาร่วมงานจำนวนมาก   

แต่คู่บ่าวสาวคู่นี้น่ารักมาก ที่ทั้ง 2 ยังอยู่ในชุดวิวาห์ พร้อมเพื่อน ๆ ได้ชักชวนกันมาเที่ยวถ่ายรูป รับประทานอาหาร รับลมเย็น กันที่ร้านอาหาร Cook@Coff @ ราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่ภายในเรือนจำกลางราชบุรี  ซึ่งในช่วงโควิดระลอกสอง เรือนจำกลางราชบุรีได้ปิดร้านไปนานกว่า 2 เดือน และเพิ่งจะกลับมาเปิดได้เพียง 1 สัปดาห์  ทำให้ผู้ที่มาในงานต่างแปลกใจ ที่คู่บ่าวสาวมาในชุดวิวาห์ฝ่ายหญิงห่มผ้าสไบ นุ่งผ้าซิ่นสีส้มอมแดงปักเลื่อมทั้งผืนแบบไทยโบราณสวยงาม ส่วนฝ่ายชายมาในชุดไทยนุ่งโจงกระเบนสวมเสื้อสีงาช้าง เดินคลอเคลียคล้องแขนพากันมาถ่ายรูปเลือกมุมสวย ๆ ทั้งยังช่วยกันเลือกซื้อผักปลอดสารพิษหลายชนิด ที่ทางเรือนจำให้ผู้ต้องขังมาวางจำหน่วยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเตรียมนำกลับไปผัดทำอาหารเป็นกับข้าวกินข้าวมื้อเย็นกินกับสามี 

 


จากการสอบถามทราบว่า เจ้าบ่าวนายกนก เพิ่มขัวจำ อายุ 24 ปี  และเจ้าสาวนางสาวธิดารัตน์ ปิ่นทอง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 5 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี  นางสาวธิดารัตน์ เจ้าสาว  เปิดเผยว่า วันนี้มาเลือกซื้อผัก ถั่วฝักยาว ไข่  ไปทำกับข้าวกินกันเพราะเป็นวันแต่งงานวันแรก หลังจากได้คบหาดูใจกันมานานเกือบ 4 ปีแล้ว เห็นว่าที่นี่วิวสวยบรรยากาศดี  อีกทั้งยังอยู่ใกล้บ้านด้วย หลังจากที่ก่อนหน้าที่เคยมารับประทานอาหารที่ร้าน Cook@Coff @ ราชบุรี หลายครั้งแล้ว  จึงอยากมาเที่ยวอีก รู้สึกชอบก็เลยเลือกพาแฟนมาเที่ยวที่นี่เป็นที่แรก  และสั่งข้าวหมกไก่รับประทานกันเพราะรสชาติอร่อยด้วย

 


นายยุทธนา  นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี  กล่าวว่า  ตั้งแต่พบการแพร่ระบาดโควิด - 19 ระลอกใหม่ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา  โดยวันที่ 19 ธันวาคม ได้สั่งปิดร้าน เพราะห่วงน้อง ๆ รวมทั้งผู้ใช้บริการทุกคน ระหว่างที่ปิดร้านไปนั้น  ได้ทำการฝึกฝนน้อง ๆ ผู้ต้องขังผู้ที่ใกล้จะพ้นโทษ และให้กำลังใจว่า สักวันหนึ่งสถานการณ์จะดีขึ้น คนข้างนอกปลอดภัย คนข้างในปลอดภัย ก็จะกลับมาเปิดร้านใหม่  จึงได้ยื่นเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด  ในฐานะประธานกรรมการควบคุมโรค จ.ราชบุรี ก็อนุญาตให้เปิดร้านอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  เปิดมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว  ลูกค้า และคนที่อยากให้โอกาสน้อง ๆ เริ่มกลับเข้ามารับประทานอาหารให้กำลังใจให้โอกาสน้อง  หลังจากช่วงปิดได้พัฒนาปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการนำศิลปะเข้ามาช่วย  ทุกอย่างจะสอดคล้องความสามารถของน้อง ๆ มีการพัฒนาเรื่องอาหาร  มีผู้ต้องขังจากน้อง ๆ ที่พ้นโทษออกไปในช่วงที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษพร้อมกับนโยบาย ในการที่จะปล่อยพักโทษผู้ต้องขังโทษระยะสั้น  ทำให้ผู้ต้องขังออกไปเป็นจำนวนมาก 



ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี  กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องขังข้างในก็ได้มีโอกาสออกมา วันนี้มีเชฟที่น้องเคยทำงานอยู่ที่โรงแรม เป็นเชฟหลายดาวของโรงแรมมาทำงานให้กับเราจึงมีรูปแบบเปลี่ยนไปดีขึ้น จะมีการเปลี่ยนเมนูอาหารที่ทำด้วยความตั้งใจ ในการพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมกลับไปเป็นคนดีของสังคม และโชคดีอีกเรื่อง คือ เจ้าของกิจการหลายแห่งได้เข้ามารับประทานอาหารที่นี่ และเห็นความสามารถของน้อง ๆ จึงพูดคุยกันว่าหากพ้นโทษจะให้ไปทำงานด้วย ทำให้วันนี้เราส่งผู้ต้องขังไปทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งจำนวน 6 คน ทั้งนักร้อง พนักงานบริกร บริการ และยังมีพ่อครัว ที่กำลังทำงานกับทางร้านซึ่งได้ขอให้ไปช่วยงานอีก ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนราชบุรีที่ช่วยกัน เป็นความภาคภูมิใจของการคืนคนดีสู่สังคม โอกาสอาจจะหาไม่ได้ง่ายนัก แต่วันนี้น้อง ๆ ได้รับโอกาสจากความรู้ความสามารถจากตัวเขาเองส่วนหนึ่ง  ทำให้มีที่ยืนในสังคม คิดว่าคงจะไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก 

 


สำหรับร้านจะมีอาหารเด่น ๆ หลายอย่างเช่น พิซซ่า ขนมจีนน้ำยาปู ผัดกระเพราหมู ที่ยังคงรสชาติ คงความสะอาดอยู่เหมือนเดิม  และขนมต่าง ๆ ยังเหมือนเดิม วันนี้ได้พัฒนาพิซซ่าขึ้นมา เป็นพิซซ่า 4 หน้า  อร่อยน่ารับประทานยิ่งขึ้น อาหารฝรั่งมีหลากหลาย เช่น สเต๊กหมู สเต๊กปลา สเต๊กไก่  อาหารไทย  ส้มตำ  ซูชิ  ยำต่าง ๆ ขนมหวาน  กาแฟสด ร้อน เย็น  ปั่น  น้ำผลไม้  และยังมีเมนูครัวยุโรปที่หลากหลาย เมนูสลัด เมนูพิเศษ เช่น พาสต้ากุ้งสันในอบซอส ราคาชุดละ 199 บาท ยำปลาแซลม่อน ราคาชุดละ 99 บาท ไก่อบซอสพริกแกง ชุดละ 99 บาท เป็นต้น  

   


นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ผู้ต้องขังปลูกพืชผักตามฤดู มี กวางตุ้ง แครอท  บวบ  ถั่วฝักยาว  มันญี่ปุ่น ผักสลัด  ข้าวโพด ส่วนหนึ่งนำมาแปรรูปภายในร้าน โดยการเกษตรเป็นพื้นฐานของราชบุรีอยู่แล้ว แต่จะมีเรื่องความปลอดภัยในการงดใช้สารเคมี เพื่อสุขภาพของผู้ต้องขังและผู้บริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษของทางร้านด้วย 

สำหรับบรรยากาศที่ร้าน  เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พาครอบครัว คู่รัก เดินทางมารับประทานอาหาร เครื่องดื่มกันอย่างไม่ขาดสาย ที่ด้านหน้าเวทียังมีน้อง ๆ มาร้องเพลงกล่อมเบา ๆ บางช่วงยังเล่นแสดงลิเกสดให้ผู้ที่มานั่งรับประทานอาหารได้เพลิดเพลิน  ช่วงไหนลูกค้ารอนาน ทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี ได้ยกอาหารบริการเสิร์ฟแก่ลูกค้าที่มานั่งรอรับประทานอย่างเป็นกันเอง โดยร้าน Cook@Coff @ ราชบุรี จะเปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่ 09.-16.00 น. โดยยังคงมีมาตรการเข้มให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิ การล้างมือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันโรคโควิด - 19  อยู่บริเวณทางเข้า เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ต้องขังและปลอดภัยกับลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้าน และยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากงานฝีมือของผู้ต้องขังด้วย

                        /////////////////////////////////////

พันธุ์ - จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี




ฉลองแต่งในเรือนจำ ฉลองแต่งในเรือนจำ  Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 23:06 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.