อากาศเป็นใจระวังไฟป่า รัฐเทงบจ้าง 3 เดือนเฝ้าระวัง
( 12 ม.ค. 64 ) นายอนุสรณ์ ฤทธิ์ล้ำ ผู้ใหญ่บ้านที่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พร้อมจิตอาสาและชาวบ้านนำอุปกรณ์ ช่วยกันทำแนวป้องกันไฟระหว่างเขตติดต่อที่ดินทำกินของชาวบ้านในพื้นที่ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีใบไม้กิ่งไม้แห้งหล่นทับถมจำนวนมาก เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง มักจะเกิดปัญหาไฟป่าที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ จุดไฟเผาไร่ หาของป่า ล่าสัตว์ ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าต้องถูกทำลายและเสียหายทุกปีจำนวนมาก
นายอนุสรณ์ ฤทธิ์ล้ำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านไทยประจัน กล่าวว่า จุดที่ตั้งนี้ถือเป็นจุดเฝ้าระวัง หรือเป็นจุดที่ไว้คอยสอดส่องว่าใครประสงค์ดีหรือไม่ดี กรณีจะเข้าไปหาของป่าด้านในพื้นที่ อีกส่วนยังได้รับงบประมาณช่วยเหลือช่วงสถานการณ์โควิด - 19 แพร่ระบาด จากโครงการสถานีควบคุมไฟป่าราชบุรีประจำไทยประจัน ซึ่งได้มีงบประมาณมาให้ดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ เกี่ยวกับช่วงสถานการณ์โควิด - 19 ให้ไปสมัครงานการช่วยเหลือเบื้องต้น คนละ 3 เดือน ประมาณ 8 คน มีเงินเดือนจ้างงานเดือนละ 9,000 บาท ถือเป็นโครงการที่ดี อีกส่วนเดิมที่นี่จะมีเครือข่ายของไฟป่าอยู่แล้ว และยังได้โครงการที่ดีเข้ามาช่วยเสริมอีกทางหนึ่ง เป็นการช่วยเหลือคนในพื้นที่ได้ดี ขณะที่มักจะเกิดไฟป่าเป็นประจำทุกปี ทั้งผู้ไม่ประสงค์ดี และขาดความระมัดระวังจุดไฟตามหัวไร่ปลายนาทำให้ไฟลุกลามจนต้องมาช่วยกันดับไฟ โดยขั้นแรกจะใช้ชุดอาสาสมัครก่อน แต่หากเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงจะประสานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีควบคุมไฟป่า อบต. ป่าไม้ เข้าช่วยเหลือ
ส่วนพื้นที่ต้องรับผิดชอบสำหรับทำแนวเขตในรัศมียาว 3 กิโลเมตร กว้าง 8 เมตร จะกันแนวก่อนระยะทางรอบหมู่บ้าน 3 กิโลเมตร หลังจากสร้างแนวเสร็จจะมานั่งประจำจุด มีทั้งหมด 3 จุด อย่างน้อยช่วยให้รู้ว่าก่อนเกิดเหตุมีใครบ้างที่เดินทางผ่าน ไป ไม่ว่าจะได้ดำเนินคดี แต่สามารถรายงานเบื้องต้นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบช่วงวัน เวลา หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น โดยผู้ที่ประจำจุดยังดูแลเรื่องใบไม้หล่นตามแนวเขต จะดำเนินการใช้อุปกรณ์เป่า กวาดออกจากพื้นที่ป้องกันลูกไฟไม่ให้เกิดขึ้นบริเวณแปลงพื้นที่ของเกษตรกร โดยจะสับเปลี่ยนประจำจุดช่วงเวลากลางวัน ส่วนช่วงเวลากลางคืนจะเป็นชุดอาสา และเครือข่าย ซึ่งเป็นรูปแบบของหลายตำบลมารวมกันได้ โดยโครงการที่ดีแบบนี้อยากให้มีอีกแต่ไม่อยากให้มีการแพร่ระบาดโควิด - 19 เป็นโครงการช่วยเหลือที่ชาวบ้านชอบ อย่างน้อยคนที่ได้รับผลกระทบได้มีงานทำ เพราะไปรับจ้างโรงงานก็ปิด ร้านค้าก็ขายของยาก แต่มาทำโครงการนี้ทำให้มีเงินรายได้เลี้ยงครอบครัวได้บ้าง
นายวันลภ จั่นสำอางค์ ชาวบ้านในโครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟสร้างรายได้ชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ดำเนินการโดยสถานีควบคุมไฟป่า เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 9,000 บาท มีหน้าที่ทำแนวกันไฟและเฝ้าระวังจุดคนเข้า - ออก พื้นที่จดชื่อบันทึกไว้ในสมุดรายงาน ช่วงวิกฤตโควิดทุกคนหยุดอยู่กับบ้าน ได้โครงการนี้มาต่อยอด เพราะไฟป่าจะเกิดมาทุกปีถ้ามีโครงการแบบนี้ให้ชาวบ้านมีรายได้ เฝ้าระวังด้วย จะช่วยเรื่องการดูแลไฟป่าได้มาก เพราะมีการเฝ้าทั้งคน ทั้งไฟ ลาดตระเวน ทำแนวกันไฟ มีทั้งฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เครือข่ายไฟป่า และยังมีชุดที่ได้เงินจากโครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟสร้างรายได้ชุมชนที่มาจ้างงาน ซึ่งต้องไปอบรมมาก่อน โดยจะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ และได้รับผลกระทบเดือดร้อนเรื่องสถานการณ์โควิด โดยการสมัครเข้าโครงการฯ จะได้รับการพิจารณาจากหัวหน้าควบคุมไฟป่าเป็นผู้คัดเลือก มีการประกาศรับสมัครผ่านคณะกรรมการ ได้ชาวบ้านทั้งหมดจำนวน 8 คน รวมระยะเวลา 3 เดือน ทำหน้าที่นั่งประจำจุด แต่ละหมู่บ้าน
จากสภาพพื้นที่ของหมู่บ้านซึ่งเป็นเขตติดต่อบริเวณอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ที่มีภูเขาสลับซับซ้อน เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพืชผัก ผลไม้หลากหลายชนิด เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง กล้วย ช่วงเช้ามืดจะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น ช่วงกลางวันจะมีอากาศที่ค่อนข้างร้อน ต้นไม้เริ่มผลัดใบหล่นทับถม บริเวณสองข้างทางที่รถยนต์ผ่านเข้า ออก ริมทางจะมีต้นหญ้าที่มีลักษณะเริ่มเหี่ยวแห้งขึ้นปกคลุม ถือเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และมักจะเกิดเหตุไฟลุกลามเข้ามายังพื้นที่ของหมู่บ้าน สร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเป็นประจำทุกปี ปีนี้จึงได้มีโครงการจากภาครัฐ เข้ามาสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้จากการเฝ้าระวังไฟป่า..
//////////////////////////////////////////////
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี