พบอาคารเรียน70ปีทรุด

ร.ร.เทศบาลตำบลหลักเมืองเตรียมสร้างอาคารใหม่หลังทรุดทั้งหลัง โยธาตรวจแล้วหวั่นอันตราย ให้ย้ายเด็กออกไปก่อน

นายกเทศบาลตำบลหลักเมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย ส.ส. เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ติดตามดูความคืบหน้าเตรียมพื้นที่ก่อสร้างอาคารเรียนใหม่หลังเกิดทรุดตัวของอาคารเรียนทั้งหลัง ครูต้องย้ายนักเรียนไปเรียนอาคารอื่นชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย 
  

         
( 10 ส.ค. 63 )  นายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์แดง นายกเทศบาลตำบลหลักเมือง  อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส. เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมปลัดเทศบาลตำบลหลักเมือง  ตรวจดูอาคารเรียนโรงเรียนเทศบาลตำบลหลักเมือง  พร้อมติดตามดูความคืบหน้าของงบประมาณการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ หลังจากเมื่อเดือนกันยายนปี 2562 อาคารเรียนขนาด 2 ชั้น ลักษณะครึ่งไม้ครึ่งปูนเกิดการทรุดตัวมีรอยแตกร้าว ทั้งบริเวณเสา ฝาผนัง หลายจุด ทำให้ครูได้ช่วยกันย้ายเด็กนักเรียนไปเรียนอีกอาคารหนึ่ง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ขอให้ย้ายนักเรียนออกไปเรียนที่อาคารอื่นชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งทางโรงเรียนได้ประสานขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ด้วย 
  

      
นางลัดดา ศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลตำบลหลักเมือง เปิดเผยว่า ที่โรงเรียนจะมีนักเรียนอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนรวมทั้งหมด 305 คน เปิดการการสอนระดับชั้นอนุบาล – ประถมศึกษาปีที่ 1- 6  สำหรับอาคารเก่าหลังนี้มีโครงสร้างอาคารที่สร้างมาประมาณ 70 ปีแล้ว  เดิมเป็นของ สพฐ.ดูแลและยุบโรงเรียน ต่อมาได้ยกให้เทศบาลตำบลหลักเมือง ครั้งแรกได้สร้างเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขึ้น และมีเด็กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมีการพัฒนาขยายโอกาสเป็นในระดับอนุบาล จากนั้นได้ขยายเพิ่มเป็นในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6  ตัวอาคารจะพบรอยแตกร้าวด้วยสภาพที่มีความเก่าแก่  โรงเรียนได้ประสานกับทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดให้มาตรวจสอบสภาพการใช้งาน ทางสำนักงานโยธาฯมีหนังสือตอบกลับมาว่า ด้วยระยะเวลาและความเก่า ไม่สมควรใช้งานอาคาร ส่วนด้านบนอาคารยังคงความแข็งแรงอยู่  จึงไม่ให้ด้านบนอาคารมีสิ่งของเก็บไว้ ส่วนด้านล่างจำเป็นต้องใช้ห้องธุรการการทำงานก่อน หากจำเป็นให้ซ่อมแซมปรับปรุงเสาอาคาร ทาสีใหม่ สามารถใช้งานได้ประมาณ 2-3 ปี ส่วนการแก้ไขปัญหานักเรียนนั้นได้ให้นักเรียนชั้นอนุบาล 2 จำนวน 2 ห้อง ที่เคยเรียนอาคารเก่าหลังนี้ย้ายไปอยู่อาคารใหม่ก่อน โดยใช้ห้องเรียนวิทยาศาสตร์และห้องเรียนอัจฉริยะเรียนไปก่อนชั่วคราว 
  

        
ด้าน นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ  กล่าวว่า มาติดตามสอบถามความคืบหน้าการของงบประมาณการสร้างอาคาร  หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง  และทางโรงเรียนมาตั้งแต่ช่วงหน้าฝนปีที่แล้ว จากสภาพอาคารเรียนมีความเก่าแก่ทรุดโทรม  มาปีนี้ได้มีการทาสีใหม่ แต่ยังไม่ได้ซ่อมแซมรอยร้าวแต่อย่างใด  ยังมีร่องรอยชำรุดหลายแห่ง  ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสเข้ามาตรวจสอบดูอาคารร่วมกับเทศบาลและโรงเรียนแล้วครั้งหนึ่ง ช่วงหน้าฝนจะเกิดน้ำเซาะโครงสร้างอาคาร หลังตรวจสอบความเสียหายแล้ว จึงประสานสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ซึ่งได้ให้ช่างมาสำรวจโครงสร้างถึงความแข็งแรงของตัวอาคาร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าค่อนข้างอันตรายจึงต้องย้ายเด็กออกไปก่อน ขณะนี้ไม่มีเด็กและไม่มีสิ่งของอยู่ด้านบนอาคารแล้ว ส่วนด้านล่างเป็นห้องที่ครูอาจารย์ทำงานชั่วคราวไปก่อน ด้านในมีสีทาไว้ใหม่กลบรอยแตกร้าวไว้เท่านั้น  
  

           
วันนี้จึงมาดูความคืบหน้า และมารับเรื่องเพื่อไปติดตาม ว่าทางส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายการสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กๆหรือไม่อย่างไร  และยังมีโอกาสไปเดินดูพื้นที่ด้านหลังโรงเรียน ที่ทางเอกชนมีจิตกุศลมอบให้กับเทศบาล เตรียมใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารหลังใหม่  ส่วนงบประมาณที่จะนำมาสร้างอาคารจะเป็นแบบมาตรฐานของกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้งบประมาณก่อสร้าง ประมาณ 11 ล้านบาท ลักษณะเป็นอาคารยกใต้ถุนสูงขนาด 4 ชั้น จำนวน 12 ห้องเรียน
   

          
สำหรับบรรยากาศของโรงเรียนในช่วงเช้าจะมีผู้ปกครองเดินทางมาส่งบุตรหลานโดยให้สวมหน้ากากอนามัยมาโรงเรียนทุกคน และจะมาส่งที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียน ซึ่งจะมีการตั้งจุดตรวจคัดกรองวัดไข้เด็กๆก่อนที่จะผ่านไปยังด้านใน และยังมีจุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้นักเรียนล้างมือก่อนที่จะเข้าห้องเรียน เพื่อความปลอดภัยจากโควิด -19 ด้วย 
               
 /////////////////////////////////////////////////
พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี