ไปชมฝูงนกทำรังนับพัน



กลางท้องทุ่งนาที่ต.อ่างทอง วิถีธรรมชาติที่หาดูได้ไม่ง่าย



ไปชมบรรยากาศท้องทุ่งนาที่เขียวขจี คลาคล่ำไปด้วยฝูงนกนานาชนิด จิกใบข้าวทำรังให้กำเนิดลูกน้อย ช่วงรับเข้าสู่หน้าฝน ที่ จ.ราชบุรี ด้วยภาพที่สวยงามยามพลบค่ำ 

 
         
( 25 พ.ค. 63 ) นี่เป็นภาพบรรยากาศช่วงพลบค่ำ บริเวณท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่  มองไปสุดลูกหูลูกตา ในหมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ต้นข้าวที่กำลังออกรวงอ่อนๆ ขึ้นเขียวขจีดูเป็นธรรมชาติที่สดใส  ช่วงยามเย็นก่อนแสงแดดใกล้จะลับขอบฟ้า สายลมพัดแผ่วเบา เหมาะกับการ เดินวิ่ง หรือ ปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย  

 
         
แต่ทุ่งนาแห่งนี้ ไม่เพียงจะมาเดินเล่นออกกำลังกายเท่านั้น  ที่นี่ยังเป็นแหล่งวิถีชีวิตของสัตว์นานาชนิด ที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติ  ยิ่งช่วงเข้าสู่หน้าฝนเช่นนี้  ฝูงนกไม่ต่ำกว่า 100 ชนิด เช่น นกกระยาง นกปากห่าง นกกระสานวล นกกวัก นกอีโก้ง นกเขา นกเอี้ยง นกพิราบ นกปรอด นกกระจาบ และนกอื่น ๆ มาหากินอาศัยทำรังอยู่ตามพุ่มไม้  ต้นไม้ เพื่อกำเนิดลูกน้อย เพราะที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย อาหาร จำพวกแมลงให้จับกิน มีแหล่งน้ำจากคลองชลประทานที่ตัดผ่าน สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง ที่มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ทำให้สัตว์เหล่านี้ดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอดช่วงฤดูการทำนา      


        
พุ่มไม้ ต้นกก หรือ ธูปฤาษี ที่ขึ้นตามขอบชายนา ช่วงที่มีน้ำขัง จึงเป็นที่หมายปองของฝูงนกมาจับจองอาศัยทำรัง สร้างอยู่กันเป็นหมู่บ้าน รังใครรังมัน คู่ใครคู่มัน ส่งเสียงร้องเจี๊ยวจ๊าวดังระงมไปทั่วท้องทุ่ง คล้ายเป็นตลาดจอแจ อีกทั้งยังมีเสียงร้องของ กบ เขียด สร้างสีสันบรรยากาศที่หาชมไปยากยิ่ง 



        
ใบข้าวกลางทุ่งนา ถูกนกกระจาบตัวสีเหลืองแถบดำเข็ม  สีสันสวยงาม ลงจิกรีด เป็นเส้นเล็ก ๆ นำมาถักทอทำรังเพื่อกำเนิดลูกน้อยอยู่ตามปลายต้นกก ต้นธูปฤาษี กว่าจะได้แต่ละรังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดีบริเวณนี้จึงไม่มีใครไปทำอันตรายใด ๆ กับฝูงสัตว์ปีกเหล่านี้ ที่มีไม่ต่ำกว่า 1,000 รัง ทั่วทุ่งนา  ซ้ำยังช่วยกันอนุรักษ์ไว้ดูเป็นธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่ง  

           เชิญทุกท่านมาสัมผัสความงดงาม ท่ามกลางสายลมที่เยือกเย็นในยามพลบค่ำเช่นนี้ 
           
                    ///////////////////////////////////// 
พันธุ์ - จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี





ไปชมฝูงนกทำรังนับพัน ไปชมฝูงนกทำรังนับพัน Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 05:53 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.