เปิดสวนองุ่นปลอดสาร



มาแปลกชอบพวงไหนตัดพวงนั้น ตามใจชอบ ดีเดย์มีดแรกที่อำเภอปากท่อ 20 มี.ค.นี้ เตรียมรับนักเที่ยววิถีไทย


ดกมากองุ่นปลอดสารสายพันธุ์ไวท์มะลากา  ของเกษตรกรบ้านวังปลาช่อน  ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เตรียมเปิดสวนรับนักท่องเที่ยวชิม ช้อป แชะ 20 มี.ค. ชิมฟรีก่อนเข้าสวนค่าเข้าชม 20 บาท ชอบพวงไหนตัดกันเองกับมือได้เลยครับในกิโลกรัมละ 80 บาท จัดไป...

              
( 16 มี.ค. 63 ) พื้นที่ 7 ไร่  ของ นายปรีชา เปี่ยมญาติ หรือ ลุงตี๋ ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนทดลองปลูกองุ่นสายพันธุ์ไวท์มะละกาในพื้นที่บ้านวังปลาช่อน ตำบลยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งแต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยปลูกฝรั่งมาก่อน แต่ด้วยปัญหาของการปลูกไม่ค่อยชำนาญและยังต้องจ้างคนงานห่อผลฝรั่ง มีค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนพื้นที่หันมาทดลองปลูกองุ่นประมาณ 700 ต้นทดแทน  มีการรวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 7 ราย ปลูกแบบลักษณะไม่ยกร่อง ใช้ระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ช่วยลดปัญหาโรคต่าง ๆ ที่จับใบและผลองุ่นให้เกิดความเสียหาย และด้วยความพยายามหมั่นศึกษาเรียนรู้จนประสบความสำเร็จ พร้อมเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดถึงสวน 

                
นายปรีชา เปี่ยมญาติ  อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 / 1 หมู่ 1 บ้านวังปลาช่อน ต.ยางหัก อ.ปากท่อ เปิดเผยเคล็ดลับการปลูกว่า ทดลองปลูกองุ่นมาได้ประมาณ 2 ปีเศษ  หลังไปเที่ยวชมสวนองุ่นลักษณะปลูกตามร่องสวนมาแล้ว  จึงชวนเพื่อนมาทดลองปลูกดูบ้างปรากฏว่าได้ผลดี ผลสวยเรียวยาว พวงมีขนาดใหญ่ เตรียมเก็บผลผลิตเป็นครั้งแรกนี้ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 12 ตัน ขายหน้าสวนตอนนี้อยู่กิโลกรัมละ 80 บาท และยังมีแนวคิดอยากเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวได้เช้ามาชิม ช้อป แชะถึงที่สวน  ชิมด้านนอก ช้อปข้างใน  ลักษณะแบบเข้าไปตัดพวงองุ่นออกมาให้ทุกคนได้ชิม พอชิมเสร็จแล้วคนไหนสนใจอยากเลือกซื้อก็จะเตรียมกรรไกรพร้อมตะกร้าไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินเลือกตัด หรือจะนำโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องถ่ายภาพเก็บแชะ บรรยากาศในสวนตามชอบใจ   โดยทางสวนขอเก็บค่าเข้าชมคนละ 20 บาท กันความเสียหายของผลองุ่น 


นอกจากนี้ยังมีสวนของเพื่อนๆ พร้อมเปิดให้เที่ยวชมระยะใกล้เคียงกันอีกหลายสวน  โดยระยะการเก็บองุ่นสามารถเก็บได้ไม่เกิน 3 สัปดาห์  ทุกสวนมีการตั้งกติกาให้ชิมฟรีก่อนด้านนอก  หรือจะให้เจ้าของสวนเลือกตัดให้ก็ได้แล้วแต่ลูกค้าสั่ง  หากลูกค้าคนไหนเลือกตัดองุ่นเองจัดไปตามใจชอบ ตัดแค่ไหนต้องซื้อกลับไปให้หมด  บางคนเดินตัดเพลินคาดคะเนไม่ถูกว่าหนักแค่ไหนแล้วก็ให้นึกถึงเวลาซื้อหมูที่ตลาด พวงองุ่น 1 พวงใหญ่ และพวงเล็กอีก 1 พวงก็จะได้ประมาณ 1 กิโลกรัม  

                
สำหรับการปลูกองุ่นพันธุ์ไวท์มะละกานั้นให้นับวันตัดยอดการตัดแต่งกินไปประมาณ 120 วัน จากนั้นให้นำปุ๋ยหมักด้วยขี้ไก่ ขี้วัว รำ แกลบตามสูตรที่คิดขึ้นนำมาใส่ที่บริเวณโคนต้นปีละ 1 ครั้ง รดน้ำด้วยระบบสปริงเกอร์  ดูแลบริเวณโคนต้นองุ่นไม่ให้หญ้าขึ้น  อาจจะใช้สารเคมีช่วงระยะผลองุ่นติดลูกเล็กๆก่อน ต่อมาเมื่อผลเริ่มโตขึ้นก็จะใช้ฮอร์โมนสาหร่ายช่วยให้ลูกและใบมีความสมบูรณ์มีขนาดใหญ่ และจะไม่ใช้สารเคมีเลย โดยจะต้องคอยดูแลบริเวณพวงองุ่น คอยเด็ดลูกเล็กๆออก ลูกไหนปริแตกก็จะเด็ดทิ้งออกไป เพื่อให้พวงมีผลองุ่นสวยงามได้ขนาด เด็ดชิมได้ปลอดภัย  

               
นอกจากสายพันธุ์ไวท์มะละกาแล้วที่สวนก็ยังได้ปลูกสายพันธุ์อื่นๆอีกประมาณ 7-8 สายพันธุ์ ขณะนี้กำลังดูว่าสายพันธุ์ไหนบ้างที่ได้ผลผลิตดี อนาคตอาจจะทดลองทำไวน์องุ่นจำหน่าย และจะพัฒนาสร้างเป็นระบบโรงเรือน มีข้อดีสามารถบังคับให้ออกผลผลิตช่วง เทศกาลปีใหม่  ตรุษจีน เชงเม้ง สงกรานต์ได้  หลังจากนั้นจะเป็นช่วงเทศกาลขององุ่นจากต่างประเทศจะเข้ามาสู่ตลาดไทย ถือเป็นการป้องกันการล้นตลาดขององุ่นไทย ส่งผลทำให้ได้ราคาขายเป็นผลดีกับเกษตรกรด้วย  นอกจากนี้พื้นที่ อ.ปากท่อ ยังมีผลไม้อีกหลายชนิดที่กำลังจะออกสู่สายตานักท่องเที่ยวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น กล้วยหอม เงาะ ทุเรียน มาเที่ยวแต่ละช่วงทั้งปีก็จะมาชิมผลไม้หลากหลายชนิดสดถึงสวน ในราคามิตรภาพกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติสุดประทับใจ  

             
นางดวงสมร พฤฑฒิกุล  เกษตรจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า จากการพูดคุยสอบถามเท่าที่ทราบเกษตรกรปลูกองุ่นในพื้นที่ ส.ป.ก. ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร จึงจะให้ไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ เพื่อร่วมกันวางแผนเรื่องการผลิต การตลาด การส่งเสริม การรวมกลุ่มด้วย อย่างองุ่นของสวนนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว หลังได้พูดคุยพบว่าบางสวนได้เก็บผลผลิตไปแล้ว บางสวนจะเริ่มเก็บได้ในวันที่ 20 มี.ค. เป็นต้นไป   และยังมีความตั้งใจอยากเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม ชิม ช้อป  เลือกซื้อตัดองุ่นได้ตามชอบใจ   ณ วันนี้ที่ได้ทดลองชิมรู้สึกว่ารสชาติเริ่มได้ที่แล้ว  แต่ถ้าวันที่ 20 มีนาคม หรืออีก 1 สัปดาห์ ความหวานจะดีมากกว่าวันนี้    

            
ในขณะที่ช่วงนี้หลายคนคงทราบถึงสถานการณ์ของเชื้อโรคที่กำลังระบาด ถ้าอยู่ในที่ชุมชน หรือเดินเที่ยวตามแหล่งชุมชนอาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ   แต่ถ้าหลายคนยังคงต้องการอยากพักผ่อนหาความสุขให้แก่ครอบครัว และกำลังสืบหาแหล่งท่องเที่ยวอยู่นั้น อยากชวนทุกคนขับรถเดินทางมาเที่ยวบ้านวังปลาช่อน ต.ยางหัก อ.ปากท่อ  อยากบอกว่าวันนี้ถ้าไม่ได้มาแล้วล่ะก็จะเสียดายแย่ ที่จะได้พบบรรยากาศความร่มรื่นสบาย มาแล้วจะว้าวววว 
 
             
อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างคึกคัก อย่างนักท่องเที่ยวคนนี้สวมชุดออกศึกนายจัน หนวด เขี้ยว ศึกบางระจันถือดาบ ตั้งใจมาเที่ยวที่สวนเป็นพิเศษกับคู่รักอดีตขวัญใจประชาชนผู้เข้าประกวดสาวงามโอ่งมังกร  ที่มีน้ำหนักถึง 147 กิโลกรัม  หวังชวนคู่รักมาสัมผัสกับบรรยากาศในสวนที่อยู่ติดภูเขา  และได้นำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก สอบถามหลายคนทราบว่าไม่เคยมาเที่ยวสวนองุ่นในลักษณะนี้มาก่อน ส่วนใหญ่จะเคยเห็นการปลูกองุ่นในสภาพการปลูกแบบยกร่องสวนเหมือนที่ อ.ดำเนินสะดวก แต่ที่นี่มีการปลูกที่แปลกดี เดินสบาย นั่งก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะตกร่องสวน  แถมยังได้ใกล้ชิดและยังใช้กรรไกรมาตัดองุ่นด้วยมือตัวเองกลับไปบ้าน เรียกได้ว่า คุ้มสุดคุ้มจริง ๆ ขอบอก 

            
นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่นายปรีชา เปี่ยมญาติ เจ้าของสวน   090-1384027  
                                                  
//////////////////////////////////////////////
พันธุ์ -  จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี





เปิดสวนองุ่นปลอดสาร เปิดสวนองุ่นปลอดสาร Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 02:49 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.