แหล่งเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่บ้านโป่ง ที่ได้นำแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้อย่างได้ผล กลายเป็นแลนด์ฺมาร์คแห่งใหม่ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีผู้คนพากันมาสัมผัสวิถึธรรมชาติกันมากมาย
เปิดแล้วสถานที่เที่ยวแห่งใหม่สำหรับเด็ก ๆ ได้สนุกสนานกันช่วงวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ ชมสวนหลังบ้าน กินเพลิน เดินสวน ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชน มีทั้งที่กิน ที่เล่น ที่เที่ยว ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เปิดแล้วมาเที่ยวได้เลย สวนหลังบ้าน ของ ศูนย์เรียนรู้วิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียงบ้านห้วยขวาง ตั้งอยู่เลขที่ 19 / 8 หมู่ 11 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่ ของนางสาวนงนุช เสลาหอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านห้วยขวาง ที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 จากที่นาปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ แบ่งพื้นที่ภายในปลูกพืชผัก ผลไม้ปลอดสาร และมีกิจกรรมที่สร้างการเรียนรู้และความสนุกสนานให้แก่ผู้ที่พาครอบครัวมาเยือน หวังที่จะให้ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
สำหรับเด็กและเยาวชนมีการจัดทำโครงการ “ กล้าทำดีเพื่อบ้าน ” เพื่อให้เด็กกล้าคิด กล้าทำงาน มีจิตสาธารณะประโยชน์ เก็บขยะและคัดแยกขยะทำความสะอาด ตามสถานที่สาธารณะปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนทำดีทุกรูปแบบ
นางสาวนงนุช เสลาหอม อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านห้วยขวาง และประธานศูนย์การเรียนรู้สวนหลังบ้าน เปิดเผยว่า เกือบ 4 ปีที่แล้วสมัยก่อนพื้นที่นี้จะเป็นทุ่งนามีการใช้สารเคมีทั่วไป จึงมีแนวคิดใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและอยากให้ชาวบ้านมีรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน จึงไปชักจูงใจให้ทุกคนปลูกผักสวนครัวกินเอง แต่ช่วงนั้นชาวบ้านยังไม่เห็นด้วย และมองว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยขณะที่แต่ละบ้านมีพื้นที่อยู่หลังบ้านแต่ยังไม่ยอมปลูก ได้ตัดสินใจหันกลับมาพลิกฟื้นพื้นที่ตัวเองพร้อมกับนำศาสตร์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับปรุงพื้นที่ โดยเริ่มปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกข้าว พอได้ผลผลิตมาแล้วก็ได้นำผลผลิตไปให้ชาวบ้านเพื่อชักจูงเขามาร่วมกัน จนในที่สุดทุกคนเริ่มเห็นประโยชน์และเริ่มทำตามทีละบ้าน
ตอนนี้ที่หมู่บ้านปลูกพืชผักไว้รับประทานเองแทบทุกหลังคาเรือนแล้ว กลายเป็นศูนย์รวมภูมิปัญญาของทุกคน มีการแนะนำเพิ่มเติมความรู้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้มีความสุข และยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน จนมีหลายหน่วยงานเข้ามาศึกษาดูงานไม่ขาดสาย เป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำสินค้าที่จะนำมาขาย พร้อมกับให้ชาวบ้านที่ปลูกพืชผัก แปรรูปต่างๆ มีการพูดคุยร่วมกันถึงการเปิดพื้นที่นำสินค้ามีการปลูก การแปรรูปมาวางขายกันเอง โดยที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางช่วงวันเสาร์- อาทิตย์
นอกจากการนำสินค้าในชุมชนมาวางจำหน่ายแล้วยังมีกิจกรรมสำหรับให้เด็กๆและครอบครัวได้สนุกสนานด้วย เช่น กิจกรรมปั้นดินให้เป็นควาย ทำให้เด็กสร้างจินตนาการนำดินเหนียวเอามาปั้นเป็นรูปสัตว์ต่างๆตามที่จินตนาการจะคิด มีผู้ปกครองคอยแนะนำ ทำให้เกิดความอบอุ่น และยังมีกิจกรรมสอนการดำนา ให้เด็กๆได้ซึมซับวิถีชีวิตความเป็นเกษตรกร และยังมีการเล่น สไลด์เดอร์โคลน การเล่นว่ายน้ำมะพร้าวแห้ง การละเล่นม้าก้านกล้วยเหมือนย้อนวัย ย้อนอดีตกลับไปในวัยเยาว์ ส่งเสริมให้เด็กๆได้มีประสบการณ์ในการเหยียบดิน เล่นโคลนกับวิถีชีวิตในสมัยโบราณ
นางดวงสมร พฤฑฒิกุล เกษตรจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ที่ศูนย์ฯจะมีจุดเด่นการทำแปลงเศรษฐกิจพอเพียงมีการพัฒนาขึ้นมาเป็นจุดท่องเที่ยวให้คนมาศึกษาดูงานด้านการเกษตร และเป็นจุดพักผ่อนได้ด้วย มีการแบ่งพื้นที่โดยใช้ศาสตร์พระราชาตามเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้ความรู้กับผู้ที่เข้ามาศึกษาดูงานการทำเกษตรแบบปลอดสารเคมี นอกจากนี้ยังมีมุมสนุกสนานให้เด็กเล่นฝึกดำนา สไลด์เดอร์โคลน การปั้นดิน มีชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมนำผลผลิตที่ปลูกตามสวนหลังบ้านไม่ใช้สารเคมีมาวางขายกันเอง มีสินค้าทั้งอาหารแปรรูป ผลผลิตการเกษตร ขนมโบราณ นำของดีมารวมไว้ที่นี่
ส่วนทางเกษตรจะเข้ามาแนะนำการปลูกพืชผัก ผลไม้ปลอดสารเคมี ตอบโจทย์สำหรับกระแสคนรักสุขภาพ และรวมกลุ่มของสมาชิกการบริหารจัดการดูแลแบ่งปันผลประโยชน์ให้เป็นธรรม การรวมกลุ่มแปรรูปผลผลิตเกษตรให้เป็นสินค้าแปรรูป เช่น การทำไข่เค็ม และการฝึกเกษตรกรที่เคยปลูกพืชผักให้มาขายผลผลิตเอง เรียกว่า ทำเอง ขายเอง อยากเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวที่แออัดในเมือง ให้ลองหันกลับมาเที่ยวทุ่งนา หาธรรมชาติ เมื่อมาที่สวนหลังบ้านจะพบกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติทั้งบรรยากาศ อาหารที่มาจากสวนหลังบ้านจริงๆ
ส่วนตามร้านค้าต่างๆมีให้เลือกซื้อหลากหลาย ทั้งการจำหน่ายมะพร้าวบอนไซ ผักออแกนิกส์ เลือกชิมอาหารโบราณใส่หม้ออวย และปิ่นโต มีทั้งแกงขี้เหล็ก น้ำพริกปลาทู ผักสด ส่วนขนมโบราณ มี ขนมตาล ขนมโค ที่เด็กๆจะช่วยกันปั้นขนมและสาธิตวิธีการทำให้นักท่องเที่ยวได้ฟังว่ามีส่วนผสมและวิธีการทำอย่างไรบ้าง ถือเป็นเสน่ห์และสีสันให้เด็กๆได้กล้าแสดงออก นอกจากนี้พื้นที่แห่งนี้ยังมีการคัดแยกขยะพลาสติก กล่องโฟม เศษอาหารไว้ชัดเจน เพื่อร่วมกันลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของชุมชนอื่นๆได้นำไปเป็นแบบอย่าง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาเที่ยวชมธรรมชาติ สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่สวนหลังบ้านได้ในช่วงวันเสาร์- อาทิตย์ ติดต่อสอบถามได้ที่ นางสาวนงนุช เสลาหอม ประธานศูนย์การเรียนรู้สวนหลังบ้าน 081-5707770
/////////////////////////////////////////
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี
ชวนเที่ยวสวนหลังบ้าน
Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม
on
01:37
Rating: