ผู้ว่ารับผิดเพียงผู้เดียว



สั่งปิดรร.วันที่11นายกไม่เกี่ยว  ล่าสุดทางรร.ออกประกาศไม่มีการปิดรร.ในวันดังกล่าวแน่นอนแล้ว


ผู้ว่าราชบุรีตรวจความเรียบร้อยโรงยิมเนเซียม อ.เมือง จ.ราชบุรี ในการต้อนรับนายกรัฐมนตรีวันที่ 11 พย. พร้อมชี้แจงรับผิดแต่เพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวนายกสั่งปิดโรงเรียน 

               
เวลา 13.00 น. (  9 พ.ย. 62 )  นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายวิสาห์  พูนศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมตรวจสถานที่บริเวณโรงยิมเนเซี่ยม เขตเทศบาลเมือง เพื่อดูความเรียบร้อยเตรียมการต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาตรวจราชการที่ จ.ราชบุรี ก่อนการประชุมครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 11  พฤศจิกายน นี้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดเตรียมสถานที่จัดภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ และภายในโรงยิมเนเซี่ยม ได้จัดตกแต่งมีโต๊ะเก้าอี้ไว้พร้อมแล้ว  โดยภายในสามารถรองรับคณะ หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆได้ประมาณ 3,300  คน ส่วนด้านนอกรองรับได้อีกกว่า 1,000 คน ขณะนี้ได้มีการขึ้นป้ายข้อความจังหวัดราชบุรี  ยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะในโอกาสตรวจราชการในพื้นที่ จ.ราชบุรี ที่ติดไว้ที่บริเวณสะพานรถไฟทางเข้าโรงยิมเนเซี่ยม   มีการจัดเตรียมโพเดี้ยมพิธีการ ที่ประดับตกแต่งด้วยผ้าทอมือจากชาวไท-ยวน ต.ดอนแร่  ด้านหน้าเวทีประดับโอ่งมังกรลายนูน สัญลักษณ์เมืองราชบุรี มีเก้าอี้ตั้งวางเรียงรายนับพันตัวอย่างเรียบร้อย

           
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด  กล่าวว่า สำหรับด้านการจราจรบริเวณรอบโรงยิมเนเซียมนั้นได้มีปัญหามานานเพราะมีโรงเรียนขนาดใหญ่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองหลายแห่งอยู่ใกล้เคียงกันรวมทั้งมีนักเรียนอยู่จำนวนมาก  เคยส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเข้าร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้มติการจัดระเบียบขึ้นมา มีการขอกำลังจากจังหวัดทหารบกราชบุรีมาคอยช่วยเหลือจัดกำลังสารวัตรทหารคอยอำนวยความสะดวกในช่วงเช้าด้านการจราจรเสริมไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร


ส่วนการเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรีตามแผนงานมีจุดแรก คือ จุดที่โรงยิมเนเซียมจะมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน   ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนกลุ่มพลังมวลชนต่างๆมารับนโยบาย รับทราบยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาการบริหารราชการของการพัฒนาประเทศจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะให้เวลาอยู่ราชบุรีตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าถึง 15.00น.ก่อนจะเดินทางไปจ.กาญจนบุรี และรุ่งเช้าการประชุม ครม.สัญจร ช่วงที่ผ่านมามีรัฐมนตรีเดินทางมาราชบุรีเพื่อตรวจติดตามผลการบริหารราชการแผ่นดินและรับข้อเสนอแนะจากราชการจากภาคประชาชน เพื่อนำไปเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ซึ่งทางจังหวัดก็มีโครงการได้รับข้อเสนอ จากประชาชนหลายส่วนที่จะไปสู่การนำเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณา และจะลงมติที่จะขับเคลื่อนเป็นโครงการใหญ่ๆ

             
สำหรับเช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีเดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่สนามบินค่ายบุรฉัตรเพื่อเดินทางต่อมาที่โรงยิมเนเซียม  แต่ก่อนจะมาที่โรงยิมเนเซียมนั้น นายกรัฐมนตรีจะบินวนตรวจบริเวณสามแยกวังมะนาว ซึ่งเรามีการผลักดันเสนอให้มีการตัดจากสามแยกวังมะนาวให้เปลี่ยนเป็นสี่แยกวังมะนาวไปเชื่อมกับถนนฝั่งสายตะวันตกซึ่งจะอยู่ในโครงข่ายของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก จะมีการนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมศึกษาออกแบบความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตกและยังมีอีกหลายโครงการที่ 3 จังหวัดเตรียมการเสนอ ครม.โดยผู้แทนจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่มาก

             
สาเหตุที่จัดประชุมที่โรงยิมเนเซียมเนื่องจากราชบุรีไม่มีหอประชุมใหญ่ ๆ ส่วนที่อื่นก็ไม่เพียงพอต่อการรองรับบรรจุผู้นำภาคประชาชนและภาคราชการต่างๆที่จะมารับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีได้  จึงปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะลดผลกระทบจากการจราจรอย่างไรได้บ้าง  ซึ่งแต่เดิมก็จะมีปัญหาการจราจรอยู่แล้วในช่วงเช้าที่จะมีนักเรียนเดินทางมาโรงเรียน ก็เป็นช่วงจังหวะเดียวที่มวลชนจะเดินทางมารับนโนบายนายกรัฐมนตรีด้วย  โดยฝั่งตรงข้ามโรงยิมเนเซียมเป็นที่ตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างมีนักเรียนประมาณ 600 คน ฝั่งซ้ายมือเป็นที่ตั้งโรงเรียนสุริยวงศ์มีเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 ประมาณ 500 คน  ฝั่งขวารั้วติดกับโรงยิมเนเซียมจะมีประตูต่อเนื่องกัน เป็นที่ตั้งโรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี มีผู้ปกครองขับรถพาลูกหลานไปส่งโรงเรียน และมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ประมาณ 3,000-4,000  นอกจากนั้นยังมีมวลชนในพื้นที่ รวมทั้งสื่อมวลชนและข้าราชการต่างๆ ที่จะเดินทางมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 5,000 คน  รวมแล้วจะมีคนประมาณ 10,000 คน ที่จะมาประดังในห้วงเวลาเดียวกัน  ยังไม่นับประชาชนที่จะใช้เส้นทางบริเวณถนนด้านหน้าโรงยิมเนเซียมอยู่แล้วตามปกติ ลองคิดดูว่าการจราจรจะเป็นอย่างไร แม้ทุกฝ่ายจะได้เตรียมการล่วงหน้า ทั้งเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครมาอำนวยการจราจร จัดเหลื่อมเวลาการเดินทางเข้าสู่จุดจากประชาชนทั้ง 10 อำเภอ ซึ่งจะไม่ได้มาพร้อมกันในทีเดียว

             
ทางจังหวัดได้มีหนังสือประสานไปยังสถานศึกษาทั้ง 3 แห่งที่อยู่ใกล้ติดกับโรงยิมเนเซียมได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี วิทยาสารพัดช่างราชบุรี และโรงเรียนสุริยวงศ์ ขอให้รับทราบสถานการณ์วันดังกล่าวที่จะส่งผลกับการมาเรียนของนักเรียนในพื้นที่   แต่หลังจากที่มีการโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์แล้ว ทางสื่อส่วนกลางได้จับไปขยายผล ซึ่งไปกระทบกระเทือนกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย  เพราะช่วงเวลาที่มานั้นได้นั่งเฮลิคอปเตอร์มาจอดที่ค่ายบุรฉัตร โดยเมื่อเย็นวานได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง ร่วมกับหน่วยทหาร ตำรวจ  รองผู้ว่าราชการจังหวัด มาประเมินสถานการณ์ร่วมกัน หลังเกิดกระแสออกมาแบบนี้ที่ไม่เป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี มองเจตนาดีไปเป็นในทางลบตรงกันข้ามจะทำอย่างไร และเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและสื่อสารไปในทางที่เกิดความเสียหายถึงบุคคลที่ 3 ทาง ร.ร.เบญจมราชูทิศราชบุรี ร.ร.สุริยวงศ์ได้ออกประกาศยกเลิกการปิดโรงเรียน  ตนชี้แจงรับผิดแต่เพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวนายกสั่งปิดโรงเรียน  และจะเปิดเรียนตามปกติ  แต่ถ้านักเรียนมาช้าเกิดจากปัญหารถติด ขอให้ผ่อนผันไม่ถือว่ามาเรียนสาย ส่วนวิทยาลัยสารพัดช่างนั้นมีการเรียนการสอนปกติ เพราะเป็นเด็กโต จึงอยากชี้แจงให้ทราบว่าทั้ง 3 โรงเรียน ยังคงเปิดเรียนตามปกติ..
                                           
///////////////////////////////////////

พันธุ์ -  จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี






ผู้ว่ารับผิดเพียงผู้เดียว ผู้ว่ารับผิดเพียงผู้เดียว Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 23:58 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.