ฉกกล้วยด่างเรือนแสน

                                          

ฉกกล้วยด่างเรือนแสน ไร้ร่องรอย จ่อคิวขายอยู่แล้ว เจ้าของยอมรับสภาพ  ยังหละหลวมคนเข้าออกมาก  


โจรย่องเงียบ ขโมยหน่อกล้วยด่างสายพันธุ์มะลิอ่องไป 2 ต้นราคาต้นละ 50,000  ต้องสูญเงิน 1 แสนบาท ภายในวิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี   เมื่อกลางดึกไร้ร่องรอย  

                          


( 21 ก.ย. 64 ) นายธนกร สดใส ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี  ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้พาไปดูหน่อแม่พันธุ์กล้วยน้ำว้าด่างสายพันธุ์มะลิอ่อง ที่ได้ขุดเอาหน่อลูกแยกออกไปเลี้ยงจำนวน 2 หน่อ เพื่อเตรียมจะส่งขายให้กับลูกค้าต่างจังหวัด แต่เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา มีโจรย่องเงียบขโมยหน่อกล้วยที่แยกออกไปเลี้ยงไว้นั้น  ยกเอาไปทั้ง 2 หน่อ  ทำให้ไม่มีส่งให้กับลูกค้าที่ได้รับปากซื้อขายกันไว้ในราคาหน่อละ 50,000 บาท รวม 2 หน่อ เป็นเงิน 100,000 บาท  ยังไม่สามารถสืบหาตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุลักขโมยหน่อกล้วยด่างได้  ซึ่งก่อนหน้านี้เคยซื้อกล้วยด่างแดงอินโดราคาต้นละ 1  ล้านบาท มาเลี้ยงดูแลและได้ขายส่งลูกค้าไปแล้ว บางส่วนได้นำมาทำผลิตภัณฑ์กระเป๋าได้ลวดลายสีสันสวยงามแปลกตา



 
นายธนกร สดใส ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี เปิดเผยว่า สายพันธุ์ที่หายเป็นสายพันธุ์มะลิอ่อง  ขุดออกมาจากกอแม่พันธุ์ต้นที่เหลืออยู่นี้  ไปเลี้ยงไว้ใส่กระถาง เพื่อรอรากงอกเตรียมส่งลูกค้า อายุที่ขุดได้ประมาณเกือบ 2 เดือน จะชำลงกระถางเพื่อให้รากเดินสามารถส่งขายลูกค้าได้  แต่ตอนนี้พอถูกขโมยไปก็ไม่รู้จะแจ้งลูกค้าที่สั่งอย่างไร ต้นหนึ่งมีมูลค่าประมาณ 50,000 บาท 2 ต้นประมาณ 100,000 บาท ยังไม่รู้ว่าเป็นใครขโมยไป เพราะว่ามีคนเข้าออกเยอะมาก ไม่ได้โทษใครเพราะไม่เห็น  ซึ่งคงต้องกลับมาดูแลความปลอดภัยของบ้านเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นสถานที่ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ  กล้องวงจรปิด และระบบไฟต่าง ๆ ยังไม่สามารถติดตั้งได้  ตัวเองอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ช่วงที่กล้วยด่างหายขณะนั้นเป็นช่วงกลางคืนไม่ได้อยู่บ้าน อยากให้ทุกคนป้องกันและดูแลตัวเอง บ้านของตัวเองให้ดีที่สุด อีกทั้งกล้วย 2 ต้นนั้นได้วางไว้ใกล้ประตูบ้าน ใกล้ถนนด้วยเป็นความประมาทของเราเอง 



ส่วนต้นแม่พันธุ์นี้ที่ซื้อมา 60,000 บาท  เพื่อปลูกขยายพันธุ์ต่อ  แล้วเลี้ยงมาระยะหนึ่งได้ออกหน่อแล้ว มีคนเห็นลวดลายบนใบสวยงาม สนใจเลยมัดจำเพื่อจะรอหน่องอกออกมา  จึงได้ขุดแยกชำไว้พร้อมเตรียมส่งลูกค้าแล้ว อยู่ที่ จ.ตราด และ จ.อ่างทอง แต่พอหายก็คงต้องโทรแจ้งยกเลิกก่อน ยังดีที่เหลืออีกหน่อที่ยังไม่ได้ขุดออกไปชำ ซึ่งมีราคาขายอยู่ประมาณ 60,000 บาท แต่ละสายพันธุ์จะดูที่ลวดลาย ค่อนข้างละเอียดมาก  เป็นด่างขาว ทำให้ราคาสูง และยังเป็นสีหายากด้วย 



นอกจากนี้ในพื้นที่ยังได้นำกล้วยตานี และสายพันธุ์ต่าง ๆ มาประดับตกแต่งเตรียมจัดงานแสดงในเร็วนี้ แต่อาจจะไม่ได้นำกล้วยหลายสายพันธุ์มาแสดงมากนัก เพราะความปลอดภัยยังไม่ค่อยดีพอ จึงจะนำมาจัดแสดงบางส่วนก่อน รวมกับไม้ใบด่างอีกหลายสายพันธุ์ที่ค่อนข้างมีราคาแพง  อย่างกล้วยที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นกล้วยสายพันธุ์ตานี ที่นำมาแปรรูปทำผลิตภัณฑ์กระเป๋าตานีแบรนด์ได้สวยงามหลากหลายรูปทรง เป็นกล้วยด่างราคาหลักล้านบาท ที่ได้สะสมซื้อมาวิจัยมาแล้ว นำมาดีไซน์ เพิ่มลวดลายสีสันจากด่างแดงอินโด  มาทำเพิ่มมูลค่าด้วยการใช้ลาย ใช้สีของกล้วยมาทำผลิตภัณฑ์กระเป๋าจะออกเป็นแบบตามรูปนี้ เป็นวัตถุดิบตัวใหม่ของตานี ที่กำลังจะเปิดตัวใหม่ประมาณ 7 - 8 ตัวอย่าง ในวันที่ 24 กันยายน จะได้เห็นการนำคุณค่ากล้วยด่างสู่ลานรันเวย์คือการยกดงกล้วยมาเป็นรันเวย์ นำมาตกแต่งสถานที่แบบนี้ จะเปิดพื้นที่ผู้สนใจกับเรื่องกล้วย ๆ สามารถมาที่คาเฟ่กล้วยด่างที่นี่ได้ มาดูผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากกล้วยด่างได้วันที่ 24 กันยายน พร้อมติดตามว่าจะเปิดคาเฟ่เมื่อไหร่ขอให้ติดตามได้  คนที่มาจะได้ชม แสง สี เสียง  เป็นวิถีชาวบ้านที่มีองค์ความรู้ตั้งแต่ของกล้วยจากยอดจรดโคน ทั้งของกิน ของใช้  ของแฟชั่นต่าง ๆ มาจัดแสดง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้ที่กล้วย เปิด 10.00 - 17.00 น.  สนใจมาเที่ยวชมได้ในวันที่ 24 กันยายนนี้ แน่นอน

                                               ///////////////////////////////////////////////

พันธุ์ - จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี




ฉกกล้วยด่างเรือนแสน ฉกกล้วยด่างเรือนแสน Reviewed by หนังสือพิมพ์มติธรรม on 04:23 Rating: 5

ขับเคลื่อนโดย Blogger.